ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองวันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาโลหะพื้นฐานและน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 42.89 จุด หรือ 0.71% แตะที่ 5976.00 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,965.26-6,040.24 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของจีนพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาล
ทั้งนี้ หุ้นคาซัคมิสปิดร่วง 2.8% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดลบ 2.2% และหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดร่วง 2.5%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดร่วง 3.2% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ปิดร่วงกว่า 3%
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ปิดบวก 0.8% หลังจากเจพีมอร์แกนปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากระดับ "underweight"
ส่วนหุ้นเบอร์เบอร์รีปิดบวก 2.7% หลังจากแอร์เมส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นคู่แข่งของเบอร์เบอร์รี่ เปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สูงเกินคาด เนื่องจากยอดขายนาฬิกาและน้ำหอมของแอร์เมสปรับตัวสูงขึ้น