นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยถึงผลกระทบจากมาตรการลดภาระผู้เป็นหนี้บัตรเครดิตว่า เชื่อว่าลูกค้าของบริษัทจะสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมากเนื่องจากดอกเบี้ยถูกกว่าถึง 50% ประกอบกับบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดของบัตรเครดิตสูงถึง 16% ของตลาดรวมและบริษัทมียอดสินเชื่อบัตรเครดิต ณ สิ้นปี 53 ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท
"ลูกค้าของเราจะหายไปมากน้อยแค่ไหนยังตอบไม่ได้ ก็คงต้องรอความชัดเจนของแบงก์รัฐก่อนว่าจะมีวิธีการอย่างไร ดอกเบี้ยเท่าไรซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าเป็นมารการที่ดีหรือไม่ดีแต่คิดว่าทางรมว.คลังคิดมารอบคอบแล้ว" นายนิวัตต์ กล่าว
ขณะที่แนวโน้มสินเชื่อรวมของบริษัทในปีนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเติบโตเท่าไร ต้องรอดูว่าลูกค้าจะเข้าร่วมในโครงการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตมากน้อยแค่ไหนแต่โดยเฉลี่ยสินเชื่อของบริษัทโตปีละ 3 พันล้านบาท ส่วนยอดบัตรเครดิตใหม่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1-2 แสนใบจากจำนวนบัตรที่มีอยู่ทั้งหมด 1.7 ล้านใบ
นายนิวัตต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของทางเคทีซีคงไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้เพราะต้นทุนในการทำธุรกิจสูงโดยมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 6% และมีมาร์จิ้น 1%
สำหรับแนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตในระยะต่อไป มองว่าถ้าทางธนาคารรัฐเสนอสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยถูกกว่าจะทำให้ธุรกิจบัตรเครดิตมีการเปลี่ยนแปลงโดยในส่วนของบริษัทต้องลดการพึ่งพิงรายได้จากดอกเบี้ยและมาให้ความสำคัญกับค่าธรรมเนียมอื่นๆแทน แต่ทั้งนี้มองว่าบัตรเครดิตจะโตจากฐานลูกค้าใหม่ในส่วนของผู้ที่เพิ่งจบการศึกษา