นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่าผลประกอบการในปี 54 หากเป็นไปตามประมาณการณ์ คาดว่ากำไรจะทำลายสถิติเดิมในปี 47 ที่เคยทำได้ 540 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 1/54 มีกำไรแล้ว 400 ล้านบาท และไตรมาส 2-3/54 ถึงแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่เชื่อว่าคงจะไม่ขาดทุนหากการเมืองนิ่ง
บริษัทยังคาดว่ารายได้ในปีนี้น่าจะทำได้เกินเป้าหมายที่ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยเดิมตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจอาหารที่ 5.8 พันล้านบาท แต่ขณะนี้ได้ปรับขึ้นมาเป็น 6 พันล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมน่าจะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท
"ตัวโรงแรมยังมีปัจจัยกระทบ เรากลัวเรื่องการเมืองไม่นิ่ง แม้จะมีการเลือกตั้งก็ยังกังวลอยู่ ส่วนธุรกิจอาหารโตได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราจึงมีการปรับเป้าหมายรายได้" นายรณชิต กล่าว
นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทคาดว่าไตรมาส 2/54 รายได้รวมน่าจะเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2.04 พันล้านบาท เนื่องจากอัตราการเข้าพักโรงแรมในเครือเฉลี่ยน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 48% โดยในเดือน เม.ย.มีอัตราเข้าพักสูงถึง 71% จึงคาดว่าจะทำรายได้ในไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท จากไตรมาส 2/53 ที่ทำรายได้ 714 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจอาหารในไตรมาส 2/54 จะทำรายได้สูงสุดในช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม โดยคาดว่ารายได้จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำรายได้ 326 ล้านบาท เพราะเชนสโตร์ของบริษัททำได้ดีกว่าคู่แข่งมาก
ส่วนไตรมาส 4/54 ก็จะเข้าไฮซีซั่น เชื่อว่าผลดำเนินงานก็น่าจะดีตามปกติ
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อกิจการโรงแรมในประเทศทางภาคเหนือ 1 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยจะนำมาขายเป็นสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ CTARAF ซึ่งปัจจุบันมีขนาดกองทุน 3 พันล้านบาท ขณะที่งานรับจ้างบริหารโรงแรม ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารับจ้างเพิ่มขึ้นอีก 10 แห่ง ไตรมาส 1/54 มีการเซ็นสัญญาไปแล้ว 9 แห่งทั้งโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ
นายรณชิต กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ราว 1 พันล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิม โดยจะออกทั้งล็อต แต่ขอรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมของตลาด