นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/54 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรราว 3.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันมีความผันผวน และยังมีปัจจัยลบ เกี่ยวกับความวิตกเรื่องเศรษฐกิจบางประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว และสหรัฐยังมีปัญหาการว่างงาน รวมถึงปัญหานี้ในยุโรป ขณะที่ปัญหาในตะวันออกกลางก็ยังไม่มีข้อยุติ
แต่แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงมาบ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี กำไรในไตรมาส 2/54 ไม่น่าจะด้อยกว่าไตรมาส 2/53
"เรายอมรับว่าไตรมาส 1 เป็นไตรมาสที่มีกำไร peak สุด เพราะราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น มาร์จิ้นดี แต่ก็ยอมรับว่าเราไม่สามารถ maintain กำไรระดับนี้ไว้ได้"นายประเสริฐ กล่าว
บริษัท ยังคงเป้าหมายรายได้ของปี 54 เติบโต 10% จากปริมาณผลิตและราคาที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงไปบ้าง เพราะราคายังสูงกว่าปีก่อน และสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ โดยโรงแครกเกอร์ และอะโรเมติกส์ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว โรงแยกก๊าซที่ 6 ผลิตได้เต็มที่ทั้งปี
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 106 เหรียญ/บาร์เรล ราคาเบนซินและดีเซล เพิ่มขึ้นมาที่ 120 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่เมื่อต้นปีบริษัทคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบไว้ที่ 85-90 เหรียญ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปที่ 100 เหรียญ/บาร์เรล
"ผมอยากให้ตามดูไตรมาส 2 ถ้างบออกมาภาพก็จะชัดเจนขึ้น"นายประเสริฐ กล่าว
ส่วนการให้บริการก๊าซ NGV นั้น นายประเสริฐ ยอมรับว่า ไม่สามารถขยายสถานีบริการได้ทันความต้องการ เพราะปัจจุบันรถบรรทุกและรถอื่นๆ ก็หันมาใช้ NGV กันมาก รถยนต์ใหม่ก็มีการติดตั้งก๊าซ NGV ด้วย แต่ที่ผ่านมาต้นทุน NGV สูงกว่าราคาขายค่อนข้างมาก ทำให้ ปตท.ต้องรับภาระขาดทุน 45 บาท/ก.ก.
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงแผนจะขยายสถานีบริการก๊าซ NGV ให้ได้ครบ 500 แห่งภายในปีนี้ ครอบคลุม 60 จังหวัด