ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์เพิ่มโทษมาร์เก็ตติ้งตั้งแต่ 1 ก.ค.-หนุนขยายฐานผู้ลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 24, 2011 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แถลงภายหลังการประชุมประจำไตรมาสร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึงแนวทางการกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนว่า ก.ล.ต. จะปรับปรุงเกณฑ์การลงโทษผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพฤติกรรมที่พบการกระทำผิดบ่อยครั้ง เช่น ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้า และตัดสินใจซื้อขายแทนลูกค้า โดยกำหนดให้มีระดับโทษที่รุนแรงกว่าเดิม และจะเริ่มใช้กับผู้ที่กระทำผิดตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.54

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. เห็นด้วยกับสมาคมที่จะสนับสนุนการขยายฐานผู้ลงทุนด้วยวิธีการต่างๆ รวมถึงแนวทางการพัฒนาผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน การเพิ่มบทบาทของผู้ลงทุนสถาบันและ financial planner ซึ่งเป็นแนวทางที่ตลาดทุนของประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ขยายฐานผู้ลงทุนสำเร็จมาแล้ว

ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทนที่ขายหน่วยลงทุนและตราสารหนี้ และจัดให้มีผู้ให้บริการในรูปแบบ investment supermarket อาทิเช่น เพิ่มความยืดหยุ่นในขนาดของทุนจดทะเบียนขั้นต่ำของผู้ให้บริการ รวมทั้งเสนอให้ บล. เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่เว็บไซต์ของความรู้ผู้ลงทุนของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/education) ควบคู่ไปกับเว็บไซต์ของสมาคม (www.asco.or.th) เพื่อเพิ่มช่องทางที่ผู้ลงทุนเข้าถึงได้สะดวกยิ่งขึ้น

พร้อมกันนั้น ยังขอให้สมาคมแจ้งให้สมาชิกให้ความสำคัญเกี่ยวกับ ระบบงานรองรับการที่ผู้ลงทุนทุกประเภทสามารถใช้โปรแกรมเทรดดิ้งในการซื้อขายได้ โดยอย่างน้อยต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของผู้ลงทุนที่เหมาะสม การป้องกันไม่ให้นำข้อมูลของลูกค้าไปใช้ประโยชน์ การป้องกันไม่ให้มีการส่งคำสั่งที่ทำให้ตลาดมีความผิดปกติ และขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานที่จะต้องครอบคลุมเรื่องเหล่านี้

แนวทางในการควบคุมมิให้เจ้าหน้าที่ บล. ติดตั้งโปรแกรมส่วนตัวที่ บล. มิได้อนุญาต ซึ่งอาจมีผลกระทบกับระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท เช่น โปรแกรมที่สามารถลัดลำดับคำสั่งซื้อขายในระบบ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการส่งคำสั่ง เป็นต้น และมีมาตรการในการดำเนินการเพื่อติดตามและจัดการกับลูกค้าที่มีพฤติกรรมส่งคำสั่งไม่เหมาะสมผ่านอินเตอร์เน็ทอย่างต่อเนื่อง เช่น ตักเตือน ลดวงเงิน ไม่อนุญาตให้ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ท และรวมไปถึงการปิดบัญชีลูกค้า

"การเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันที่จะเกิดหลังจากการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์และการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค เป็นประเด็นที่ ก.ล.ต. ติดตามให้สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ตระหนักและเร่งปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งขณะนี้สมาคมได้ศึกษากฎเกณฑ์ของประเทศอื่นเพื่อประเมินศักยภาพในการแข่งขันซึ่งจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีคู่แข่งต่างชาติ โดยในส่วนของ ก.ล.ต. จะให้น้ำหนักกับความมั่นคงของฐานะการเงินของ บล. ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบในภาพรวม และการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เน้นการคุ้มครองผู้ลงทุนและความเรียบร้อยของตลาด ในส่วนของการแข่งขัน ก.ล.ต. จะสนับสนุนให้เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกที่ดีกว่า"นายธีระชัย กล่าว

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า บล. ได้ติดตามเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยจะได้ทำการศึกษากฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของตลาดในภูมิภาคอาเซียน สำหรับการพัฒนาระบบการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ไทยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และการใช้โปรแกรมเทรดดิ้งนั้นเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนเข้าสู่ตลาดได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งจะเอื้ออำนวยต่อการขยายฐานนักลงทุนได้อีกด้วย

ทั้งนี้ สมาคมจะดำเนินการให้บริษัทสมาชิกดูแลให้ระบบการปฏิบัติงานและการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเหมาะสม เป็นธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและตลาดทุนโดยรวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ