ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนราคาเหล็กและหุ้นกลุ่มวัสดุให้ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ขยายตัวเกินคาด แม้ข้อมูลเศรษฐกิจบางตัวจะน่าผิดหวังก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 38.82 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 12,441.58 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.41 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 1,331.10 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 2,796.86 จุด
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ขยายตัวแตะ 74.3 จุดในเดือนพฤษภาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 70 จุด
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า รายได้ส่วนบุคคลและการใช้จ่ายส่วนบุคคลต่างขยายตัว 0.4% ในเดือนเมษายน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ แต่การใช้จ่ายส่วนบุคคลยังขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน บ่งชี้ว่าสถานการณ์การบริโภคยังคงซบเซา
นอกจากนั้นยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ก็ปรับลดลง 11.6% ในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1%
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางก่อนวันหยุดเมโมเรียลเดย์ในวันจันทร์หน้า ซึ่งตลาดจะปิดทำการในวันดังกล่าว