ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคการผลิตชะลอตัวลงและภาคเอกชนมีการจ้างงานที่น้อยที่สุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 61.38 จุด แตะที่ 5928.61 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 และเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 53.5 จุด น้อยกว่าเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 60.4 จุด และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 57.7 จุด
ขณะที่ทางการจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ค.ร่วงลง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 52 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองเดือน หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการควบคุมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
หุ้นเทท แอนด์ ไลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลเทียมรายใหญ่ของอังกฤษ ปิดบวก 5% หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า บริษัท Bunge Ltd. อาจจะเสนอซื้อกิจการเทท แอนด์ ไลล์
หุ้นแฮมเมอร์สัน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษ ปิดบวก 1.4% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแฮมเมอร์สัน ขึ้นสู่ระดับ "overweight"