โบรกเกอร์ระบุว่า การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีกระทบต่อลูกค้ามาร์จิ้นไม่มากนัก ส่วนการรีบาวน์ของดัชนีในช่วงบ่ายวันนี้รับผลจากแรงซื้อของสถาบันในประเทศ โดยเฉพาะ 2 กองทุนใหญ่ในช่วงที่ดัชนีฯร่วงแตะ 1,000 จุด จึงส่งผลให้รีบาวน์ได้ในช่วงสั้น ๆ แต่เชื่อว่าท้ายสุดน่าจะทนแรงขายของต่างชาติที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ไหว
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.41 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,011.88 จุด ลดลง 2.70 จุด(-0.27%)ซึ่งได้รีบาวน์ขึ้นมาจากช่วงเช้าที่ได้ปรับตัวลงไปหลุดแนวระดับ 1,000 จุด
ทั้งนี้ ดัชนี SET ในรอบสัปดาห์นี้ได้ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 40 จุด โดยเมื่อ 3 มิ.ย.54 ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,057.86 จุด และวานนี้(8 มิ.ย.)ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,014.58 จุด ลดลง 43.28 จุด
นายธวัชชัย ไกรฤกษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามากในช่วงนี้ เป็นผลจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ การปรับตัวลงมากของตลาดฯทำให้มีหุ้นบางตัวเริ่มจะต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม(Call Margin)แล้ว โดยบริษัทฯก็มีลูกค้า 2-3 รายที่ต้องมีการ Call Margin
ตอนนี้หุ้นที่ถูกเรียก Call Margin เป็นหุ้น IVL, PTTAR, PTTCH, PTL เป็นต้น อย่างไรก็ดี คงจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะลูกค้าของบริษัทฯส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าชั้นดี และการปล่อยมาร์จินให้แก่ลูกค้า ทางบริษัทฯจะเน้นปล่อยหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET50 ส่วนตลาด MAI แทบไม่ได้ปล่อยมาร์จินให้เลย
"ที่ต้องเรียก Call เป็นเพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามาก แล้วเขาก็ติดไว้สูงด้วย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะลูกค้าของเราเป็นลูกค้าชั้นดี และหุ้นที่บริษัทฯปล่อยมาร์จินก็เป็นหุ้นในกลุ่ม SET50 ส่วนหุ้นในตลาด MAI แทบไม่มีปล่อยเลย"นายธวัชชัย กล่าวนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การปรับตัวลงมากของตลาดฯในขณะนี้ แน่นอนว่าย่อมที่จะทำให้เกิดการเรียกหลักประกันเพิ่ม(Call Margin) รวมถึงการถูกบังคับขาย(Force Sell)ด้วย ซึ่งทางบริษัทฯก็ได้มีการดำเนินการกับลูกค้ามาแล้ว 1 รายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนเช้านี้ก็ยังไม่ได้เห็นว่ามีลูกค้าคนใดที่จะต้องถูกเรียก Call Margin เลย
"เกณฑ์ของเราค่อนข้างเข้มงวด และได้ตั้งเกณฑ์ไว้สูงกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เราก็มีการตรวจสอบตลอด หากมีลูกค้ารายใดที่เข้าเกณฑ์ก็จะดำเนินการทันที เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วก็มีลูกค้า 1 รายที่โดน และก็ได้ดำเนินการไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเช้านี้ก็ยังไม่เห็นมีลูกค้ารายใดเข้าเกณฑ์"นายประสิทธิ์ กล่าวด้านนายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยในรอบนี้เป็นการปรับตัวลงของหุ้นที่ค่อนข้างกระจาย ทำให้ลูกค้ามาร์จินส่วนใหญ่ยังถูกระทบน้อยมาก แม้แต่ลูกค้าของธนชาตก็น้อยมาก เท่าที่ดูยังห่างไกลจากผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนไทยได้ขายทำกำไรออกมาบ้างช่วงก่อนหน้านี้ และมีการกระจายการลงทุน