GLOBAL-W ปิดเทรดวันแรกที่ 1.88 บาท มูลค่าซื้อขาย 396.34 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.03 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.99 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุด 1.02 บาท
ขณะที่หุ้น GLOBAL ปิดตลาดที่ 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+7.69%)มูลค่าซื้อขาย 47.83 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 7.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุด 6.55 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์(GLOBAL-W)มีอายุค่อนข้างน้อยเพียง 2 ปี และประมาณ 65% ถือโดยครอบครัวสุริยวนากุล อาจเป็นปัจจัยถ่วงด้านสภาพคล่องในการซื้อขาย อย่างไรก็ดี มองแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในเชิงบวก
ดังนั้น นักลงทุนสามารถหาจังหวะเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม จากราคาปิดหุ้นแม่ที่ 6.5 บาท(13 มิ.ย.)และการประเมินมูลค่าด้วยวิธี Black-Scholes Model ได้มูลค่าเหมาะสมของ GLOBAL-W ที่ 1.33 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium 35.8% แต่หากใช้มูลค่าเหมาะสมหุ้นแม่ของตลาดที่ประเมินไว้ที่ 8.83 บาท จะได้มูลค่าเหมาะสมของ GLOBAL-W ที่ 2.54 บาท/หน่วย
สำหรับ GLOBAL ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง เครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ใช้ในงานก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง บ้านและสวน ภายในอาคารหลังเดียวขนาดใหญ่ โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “โกลบอล เฮ้าส์" (Global House) โดยปัจจุบันมีสาขาเฉพาะในต่างจังหวัดรวม 11 สาขา แต่มีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 4 สาขา รวมเป็น 15 สาขาในปีนี้
ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากได้ประโยชน์จากแนวโน้มความเจริญและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้นในต่างจังหวัด, รายได้ภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง หนุนการจับจ่ายใช้สอย และแผนการขยายสาขาของบริษัท กระตุ้นการเติบโตของยอดขาย จากประมาณการรวมของตลาด (Bloomberg Consensus) ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น GLOBAL สำหรับปีนี้ไว้ที่ 8.83 บาท หรือมี upside ราว 32% จากราคาหุ้นปัจจุบัน
GLOBAL-W ออกจำนวน 240 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4:1 อัตราใช้สิทธิ 1:1 @ 7.50 บาท, อายุ 2 ปี, ใช้สิทธิได้ 4 ครั้ง คือ วันที่ 18 พ.ย.54, 18 พ.ค.55, 16 พ.ย.55 และ 17 พ.ค.56 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ