นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่อยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ คาดรับแรงกดดันจากเศรษฐกิจของสหรัฐ - ความวิตกเกี่ยวกับภาคธนาคารของอิตาลี และวิกฤติหนี้ของกรีซกดดัน ด้านปัจจัยในประเทศยังผสมโรงกดดัน จากสถานการณ์ทางการเมือง ที่กังวลว่าจะเกิดความวุ่นวาย ส่งผลต่างชาติ - ไทยชะลอการลงทุน ประกอบกับการรั่วของก๊าซ บมจ.ปตท. กดดันกลุ่มพลังงานในแดนลบ โดยตลาดฯคงจะยังเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ลงทุนได้ในช่วงสั้น แบบเก็งกำไรรายตัว พร้อมให้แนวรับ 1,015 - 1,010 แนวต้าน 1,025 -1,030 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทย เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา รวมทั้งความกังวลวิกฤตหนี้สาธารณะอาจจะลุกลามเป็นวงกว้างในยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งในอิตาลี
ทั้งนี้ในส่วนปัจจัยในประเทศยังได้รับปัจจัยที่กดดันตลาดจาก กรณีท่อก๊าซรั่วของบมจ.ปตท.ในอ่าวไทย ซึ่งน่าจะเป็นตัวหุ้นหลักที่ปรับลดลง และส่งผลให้หุ้นตัวอื่นปรับลงตาม ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศรอดูสถานการณ์การเลือกตั้ง และไม่มีปัจจัยใหม่ๆ สนับสนุน โดยการลงทุนมองว่ายังอยู่ในกรอบแคบๆ หากปรับขึ้นก็แนะนะให้ขาย หากปรับลดลงให้ซื้อ แต่มองว่าการปรับตัวของดัชนียังไม่หลุดกรอบ 1,000 -1,030 จุด "ตลาดน่าจะยังผันผวน และซึมๆ ในช่วงนี้ และตอนนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นักลงทุนคงจะเป็นลักษณะ wait and see โดยเฉพาะต่างชาติ ที่กังวลสถานการณ์หลังการเลือตั้ง อาจเกิดความวุ่นวาย ปัจจัยต่างประเทศก็ลง- ในประเทศก็โดนกดดัน " นายอภิชาติ กล่าว ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 มิ.ย)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,934.58 จุด ลดลง 115.42 จุด(-0.96%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,941.07 ล้านบาทเมื่อ 24 มิ.ย.54
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 91.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับขึ้น 14 เซนต์ ดอลลาร์หรือ 015 %
- ธอส. มีแผนที่จะปรับโครงสร้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5 หมื่นล้านบาทหรือเท่ากับ 7.5% ของยอดสินเชื่อคงค้าง โดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้ จะทยอยปรับลดหนี้เอ็นพีแอลปีละ 1% หรือพยายามลดหนี้เอ็นพีแอลให้เหลือต่ำกว่า 5% ภายในปี 2556
- กระทรวงการคลังจะต้องทำการขยายเวลาการงดออกตั๋วเงินคลังต่อไปอีก 3 เดือนหลังจากก่อนหน้านี้ ได้ประกาศงดออกตั๋วเงินคลังทุกรุ่นอายุชั่วคราวมาแล้วเป็นเวลา 6 เดือน
- ธปท.จัดแผนฉุกเฉิน ธปท.มองช่วงที่เศรษฐกิจโลก เงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศผันผวนและการเมืองในประเทศมีปัญหาธปท.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดการทางการเงินและการลงทุนของธปท.ซึ่งส่งผลต่อฐานะการเงินของธปท.และความเสี่ยงในด้านการปฎิบัติการ เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของธปท.จากสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ
- ตลาดหลักทรัพย์ฯออกเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟอร์ ใบสำคัญแสดงสิทธิ-ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนโอนสิทธิได้เทรดวันแรกซื้อขาย เพื่อป้องกันความผันผวนของราคาซื้อขายและจำกัดความเสี่ยงของผู้ลงทุนมีผลบังคับใช้ 5 กรกฎาคมนี้ ด้าน บล.กิมเอ็ง เล็งออกดีดับบลิวเดือนหน้า 6 ตัว
- 4 หน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ คลัง-คมนาคม-สภาพัฒน์-สำนักงบฯ ถกยุทธศาสตร์เดินหน้าระบบลอจิสติกส์เดือนหน้าระบุภายใน 5 ปีใช้งบประมาณ ไม่ต่ำกว่า7 แสนล้านวางพื้นฐานสาธารณูปโภครองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เผยเตรียมดึงภาคเอกชนร่วมงานรูปแบบพีพีพีช่วยประหยัดงบประมาณได้ถึง 3 แสนล้าน
- พบพิรุธสอบดีแทค "พาณิชย์" ขัดกันเอง เรื่องตั้งคณะทำงานคุ้ยนอมินี แฉก่อนหน้ากรมพัฒนาธุรกิจการค้ายืนกระต่ายขาเดียวสอบเชิงลึกไม่ได้ แต่หลัง"อลงกรณ์" สั่งให้ตั้งทีมตรวจ ส่ง"สัญญา" คุม เหตุการณ์พลิก "บรรยงค์" ชง "ยรรยง" เซ็นตั้งคณะทำงานสอบทันที แถมขีดเส้น 10 วันจบ ตั้งข้อสงสัยใครถือหางใครกันแน่ แนะให้จับตาผลสรุปที่จะออกมา 4 ก.ค.นี้
- นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า หลังจากธนาคารกรุงไทยทดลองปล่อยกู้ไมโครไฟแนนซ์แล้วได้ผลค่อนข้างดี ก็น่าจะเป็นโอกาสให้ธนาคารอื่นๆ สนใจหันมาทำไมโครไฟแนนซ์มากขึ้น
- เรกูเลเตอร์ปรับสูตรคำนวณค่าผ่านท่อใหม่ แยกต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรออกจากกัน เพื่อสร้างความเป็นธรรม พร้อมเห็นชอบเพิ่มค่าผ่านท่อใหม่เป็น 1.15 บาทต่อล้านบีทียู ตามที่ ปตท.เสนอ
- นักเศรษฐศาสตร์จับตาวิกฤติหนี้กรีซ หวั่นลุกลาม เกิดซ้ำวิกฤติเศรษฐกิจโลก กระทบการส่งออกของไทย ค่าเงินบาทผันผวนจากเงินทุนเคลื่อนย้าย คลังยอมรับกระทบเศรษฐกิจไทยแน่ เตรียมประเมินตัวเลขจีดีพีใหม่
- นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 27 มิ.ย.ได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิงเป็นการด่วน เพื่อติดตามและบริหารเชื้อเพลิงหลังจากเกิดปัญหาท่อก๊าซธรรมชาติรั่วในอ่าวไทย ของ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ซึ่งปตท.ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์และแก้ไขและมีการประสานงานไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการจัดส่งเชื้อเพลิงชนิดอื่น เพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซฯ ที่หายไป ซึ่งกระทรวงพลังงานสามารถรับมือได้ เพราะมีแผนฉุกเฉินเตรียมพร้อมไว้แล้ว ยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ไฟฟ้าไม่ขาดแคลน ส่วนต้นทุนค่าไฟฟ้าที่จะแพงขึ้นคงต้องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) พิจารณา