SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,033.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.76 จุด(+1.95%)มูลค่าการซื้อขาย 27,139.42 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวในแดนบวกอย่างร้อนแรง เป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามตลาดต่างประเทศจากประเด็นปัญหากรีซที่คลี่คลายในทิศทางที่ดี ด้านในประเทศแรงซื้อแบงก์หนุนจากการทำราคาก่อนปิดสิ้นงวดบัญชี อย่างไรก็ดี ให้รอดูการทยอยประกาศงบฯ Q2/54 ขณะที่พรุ่งนี้ตลาดฯคงผันผวนและเห็นการขายทำกำไร พร้อมให้แนวรับ 1,020 จุด ส่วนแนวต้าน 1,030-1,040 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,033.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.76 จุด( +1.95 %)มูลค่าการซื้อขาย 27,139.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวกตลอดทั้งวัน และช่วยบ่ายพุ่งขึ้นแตะ 2% ก่อนจะอ่อนตัวลงมา โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,035.10 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,019.85 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 333 หลักทรัพย์ ลดลง 70 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 160 หลักทรัพย์
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวร้อนแรงตามตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองเป็นบวกว่ากรีซจะรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ จากการคาดการณ์ว่ารัฐสภากรีซจะผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัด แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านก็ต้องรอดูว่าทางอียูและไอเอ็มเอฟจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็น sentiment เชิงบวกในช่วงสั้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี(window dressing)และที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงไปมากแล้ว จึงทำให้มีความน่าสนใจการลงทุน และทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ พลังงาน นำสนับสนุนเพิ่มในเชิงบวก
หากพิจารณาการปรับขึ้นวันนี้เกิดจากแรงซื้อที่เข้ามามากในกลุ่มแบงก์ รองมา คือ กลุ่มพลังงาน ซึ่งถือเป็นหุ้นที่มีบทบาทสำคัญในตลาดหุ้นไทยทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้หุ้นกลุ่มอื่นๆ ปรับขึ้นตาม เพราะปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจก็ยังดี ราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ส่วนเรื่องการเมืองยังต้องรอผลการเลือกตั้ง
ดังนั้น ช่วงนี้ยังไม่แนะนำให้เทรดดิ้ง ควรรอให้ปัจจัยต่างๆ มีความชัดเจนก่อน ถ้าเทรดดิ้งก็ต้องเข้าเร็วออกเร็ว หาจังหวะและเลือกเล่นรายตัว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(30 มิ.ย.)นักวิเคราะห์ฯมองว่าตลาดหุ้นไทยคงจะผันผวนแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และอาจมีการขายทำกำไร จากปัจัยสนับสนุนทีทยอยหมดลง และเป็นวันสุดท้ายในการเทรดในสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับในช่วง 1,020 จุด ส่วนแนวต้าน 1,030-1,040 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,404.87 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,950.46 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,820.59 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,468.70 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,368.15 ล้านบาท ปิดที่ 333.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท