MDX คาดกำไรสุทธิใน Q2/54 สูงกว่า Q1/54 , คงเป้ากำไรสุทธิปี 54 โต 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 5, 2011 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชญพงศ์ ณ บางช้าง กรรมการบริหาร บมจ. เอ็มดีเอ็กซ์ (MDX) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/54 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิมากกว่าไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาทเนื่องจากเป็นช่วงที่โรงไฟฟ้ามีปัญหาด้าเทคนิคทำให้ต้องหยุดเดินเครื่อง แต่ในไตรมาส 2/54 โรงไฟฟ้าที่มีปัญหากลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติแล้ว ดังนั้นจะทำให้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้ากลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/54 บริษัทได้มีการเซ็นสัญญาขายที่ดินให้กับบริษัท คันไซเพ้นท์ จากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 100 ไร่ แต่คาดว่าจะมีการโอนที่ดินได้ในช่วงไตรมาส 4/54 จึงจะมีการบันทึกรายได้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายรายที่ต้องการซื้อที่ดินประมาณ 15-30 ไร่ โดยช่วงครึ่งปีหลังบริษัทตั้งเป้ามียอดขายที่ดินไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มีการทบทวนเป้าหมายกำไรของบริษัทในปีนี้ โดยยังคงเป้ามีกำไรสุทธิเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท ขณะที่การขายที่ดินมียอดขายเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว

"หลังเกิดภัยพิบัติในญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็มองหาการลงุทนในอาเซียนมากขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรปก็มีปัญหา อาเซียนจึงเป็นตัวหลัก และไทยก็เป็นประเทศที่มีทำเลที่น่าสนใจ...ตอนนี้ยังไม่มีการปรับเป้าหมาย ถ้าไม่มีอะไรสะดุด ทุกอย่างก็น่าเป็นไปตามแผน การปรับมาตรฐานบัญชีใหม่ ก็น่าจะกระทบรายได้และกำไรของเราบ้าง เพราะถ้าไม่มีการโอนที่ดินก็ยังไม่รับรู้รายได้"นายพิชญพงศ์ กล่าว

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60% ของรายได้รวม คาดว่าจะเพิ่มเป็น 80% ในปี 55 หลังจากที่โครงการไฟฟ้าน้ำเทินหินบูนส่วนต่อขยายในประเทศลาวที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาอีก 290 เมกะวัตต์จะแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณชิย์ในไตรมาส 3/55 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปลายปี 55

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 กำลังการผลิต 440 เมกะวัตต์จะเริ่มเตรียมการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 59 จึงจะเริ่มรับรู้รายได้ ขณะที่บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า หรือพลังงานทดแทนในประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบาย แต่บริษัทได้มีการศึกษาเรื่องนี้ในเชิงวิศวกรรมไว้แล้ว

นายพิชญพงศ์ กล่าวว่า การขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินที่พัฒนาแล้วพร้อมขาย จำนวน 600 ไร่ และยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอีกประมาณ 1,000 ไร่ โดยยอมรับว่าบริษัทไม่ได้เน้นรุกธุรกิจขายที่ดินมากนัก ประกอบกับนิคมอุตสาหกรรมแห่งอื่นๆ มีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งดีกว่าของบริษัท

และขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนการล้างขาดทุนสะสม เนื่องจากบริษัทต้องดำเนินการตามแผนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมีภาระผูกพันที่ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่ทำไว้กับเจ้าหนี้ ซึ่งการดำเนินการตามแผนยังเหลืออีก 6 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ