ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยดัชนีดิ่งลงหนักสุดในรอบ 2 สัปดาห์หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 63.97 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 5,990.58 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 90,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.2% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 9.1% โดยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9%
หุ้นบริติช สกาย บรอดคาสติง กรุ๊ป (บีสกายบี) ดิ่งลง 7.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 หลังจากรัฐบาลอังกฤษระบุว่า ทางรัฐบาลจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการทบทวนข้อเสนอของบริษัทนิวส์ คอร์ป ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค ที่ต้องการเทคโอเวอร์กิจการบีสกายบี
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอ โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดร่วง 4.5% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดลบ 1.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 2.7%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจลุกลามเข้าไปสร้างความเสียหายต่อระบบธนาคารในยุโรป โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดร่วง 3.2% หุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ปิดร่วง 3.5% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 2.6%
อย่างไรก็ตาม หุ้นทรีนิตี มิเรอร์ ซึ่งเป็นผู้พิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิเรอร์ ทะยานขึ้น 4.2% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทนิวส์ คอร์ป จะปิดหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิล์ด ซึ่งเป็นแท็บลอดย์ที่มีการตีพิมพ์มานานถึง 168 ปีและเป็นคู่แข่งของซันเดย์ มิเรอร์ เนื่องจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการเผยแพร่คลิปเสียงของเหยื่อฆาตกรรม