TCC บวก 2.96% รับผลดีโรงถ่านหินสมุทรสาครปิด เล็งปรับเป้ายอดขายเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 21, 2011 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TCC บวก 2.96% มาอยู่ที่ 3.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 45.12 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.42 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.48 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.38 บาท

นายบัณฑิต โชติวรรณพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยแคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานคัดแยกและคลังถ่านหินในจังหวัดหยุดดำเนินการเป็นการชั่วคราว หลังจากมีการประท้วงต่อต้านจากกลุ่มชาวบ้าน ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในการเข้าไปเป็นผู้ซัพพลายถ่านหินทดแทนรายที่ต้องปิดดำเนินการในช่วงนี้ โดยภาคการผลิตเฉพาะในสมุทรสาคร 200 กว่ารายจำเป็นต้องใช้ถ่านหิน

"คลังเราอยู่ที่ จ.เพชรบุรี ถ้าที่สมุทรสาครประกาศออกมาห้ามดำเนินธุรกิจในพื้นที่ของจังหวัด แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ขนเข้าไปขาย เพราะ 200 กว่าบริษัทในสมุทรสาครต้องใช้ถ่านหิน แค่ไม่ต้องการให้ผลิตในพื้นที่ แต่สามารถเข้าไปขายได้" นายบัณฑิต กล่าว

ไตรมาส 2/54 คาดยอดขายและกำไรจะใกล้เคียงไตรมาส 1/54 ที่มียอดขาย 250 ล้านบาท กำไร 19.84 ล้านบาท ขณะที่ราคาขายทรงตัว โดยรวมยอดขายครึ่งแรกอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของประมาณการทั้งปี 1 พันล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ราคาขายครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2,500 บาทต่อตัน ทิศทางครึ่งปีหลังราคาขายน่าจะเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

ส่วนครึ่งปีหลังจะปรับเป้ายอดขายขึ้นหรือไม่นั้น ต้องหารือกับคณะกรรมการบริษัทก่อน แต่ยอมรับว่ามีโอกาจะปรับขึ้นเพราะด้วยความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น ลูกค้าก็ให้ความเชื่อมั่นต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ช่วงครึ่งหลังของปียอดขายคงเห็นได้ชัดเจนขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้จะโตกว่าปีก่อนอย่างก้าวกระโดด หลังไตรมาส 1/54 โต 330% ไตรมาส 2/54 ก็จะใกล้เคียงกัน

นายบัณฑิต กล่าวถึงการเจรจาซื้อเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียว่า ขณะนี้เจรจาอยู่ 2-3 แห่ง แต่เราขอหันมาเน้นงานในประเทศเป็นหลักก่อน เพราะโอกาสมาต้องรีบ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหญ่รายใหม่ในประเทศ 2-3 ราย คาดว่าจะเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ มูลค่าสูงพอสมควร ซึ่งเป็นลูกค้าในอุตสาหกรรมกลุ่มอาหาร

"ตอนนี้บุกตลาดในประเทศเป็นหลักเพราะโอกาสมาแล้ว ส่วนการซื้อเหมืองในอินโดฯ เราไม่ได้ถึงขนาดจะชะลอ แต่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ได้แน่ๆ ก่อน สถานการณ์เป็นใจด้วย"นายบัณฑิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนขยายโรงงาน กำลังการผลิตยังเพียงพอ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก ปัจจุบันมีโรงคัดแยกถ่านหินอยู่ 2 แห่งที่ อยุธยา และ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ทั้ง 2 ที่ไม่ได้อยู่ใน red alert zone ตรงนี้มั่นใจไม่มีปัญหาการขนถ่านหิน ขณะนี้สต็อกถ่านหินเพียงพอขายในระยะ 2-3 เดือน นายบัณฑิต กล่าวว่า ภาพรัฐบาลใหม่ชัดเจนน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจัง ภาคธุรกิจที่จะโตค่อนข้างมั่นใจว่าจะไปได้ค่อนข้างดี แต่อาจจะมีช่วงแรกมีนโยบายที่น่าหวั่นไหวบ้าง เช่น ค่าแรง 300 บาท แต่เชื่อว่ารัฐบาลเก่ง และว่าที่นายกรัฐมนตรีเป็นนักธุรกิจมาก่อนคงจะมีทางออกให้กับเรื่องนี้ ยังมองเป็นบวกเพราะกลุ่มธุรกิจพลังงานไม่ว่าภาครัฐรุ่นไหนที่เข้ามาพลังงานมักจะมองเป็นอันดับแรกก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ