ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ (2 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และเงินเยนที่แข็งค่า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหรือไม่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 120.42 จุด หรือ 1.21% แตะที่ 9,844.59 จุด
ราคาหุ้นร่วงลงเกือบทุกกลุ่มจากทั้งหมด 33 กลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศร่วงลงหนักสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มคลังสินค้า ส่วนหุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน กลุ่มประมงและป่าไม้ ดีดตัวขึ้น ตลาดหุ้นโตเกียวอ่อนแรงลงในช่วงแรกของการซื้อขายหลังจากที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายในตลาดซบเซาลงหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 50.9 จุด ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัว 55.3 จุด และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 54.9 จุด
ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนก.ค.ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้จะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ แต่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 76.29 เยนเมื่อคืนนี้ และส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกในตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงในวันนี้ด้วย