โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KTB คาดสินเชื่อปีนี้โตกว่าคาด ปรับกำไร-มูลค่าพื้นฐาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 3, 2011 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ต่างเห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นธนาคารกรุงไทย(KTB)เนื่องจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในปี 54 เติบโตกว่า 10% จากที่คาดไว้ 7-8% ครึ่งปีแรกโตเกินไปกว่าครึ่งของเป้าหมายแล้ว และคาดว่าครึ่งปีหลังสินเชื่อจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก ทั้งนี้ คุณภาพของสินเชื่อดีขึ้น เน้นเจาะกลุ่ม SME และ Retail ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ในปีนี้คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 2.7-3.0%

โบรกฯ บางรายได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 54 ขึ้นมาที่ 2.1 หมื่นล้านบาท จาก 1.8-1.9 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับขึ้นมูลค่าพื้นฐานเป็น 23.75-25.60 บาท จากเดิม 22.40-22.50 บาท

          โบรกเกอร์      คำแนะนำ    ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กสิกรไทย      ซื้อ          26.00
          บล.ฟิลลิปฯ        ซื้อ          25.60
          บล.ดีบีเอสฯ       ซื้อ          25.50
          บล.เอเชียพลัส     ซื้อ          25.50
          บล.ทิสโก้         ซื้อ          25.00
          บล.ฟาร์อีสท์       ซื้อ          24.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา   ซื้อ          23.75
          บล.กิมเอ็ง        ซื้อ          23.50
          บล.ทรินีตี้         ซื้อ          23.00

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของสินเชื่อ KTB โดยในงวดครึ่งแรกของปีสินเชื่อเติบโต 6.4% และผู้บริหารคาดว่าทั้งปี จะเติบโต 10% จากเดิมคาดไว้โต 7% ขณะที่ฟิลลิปฯ คาดเติบโต 8%

นอกจากนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)คาดว่าทั้งปีจะทำได้เฉลี่ย 2.7% จากปีก่อนอยูที่ 2.4% โดยไตรมาส 1/54 อยู่ที่ 2.5% และในไตรมาส 2/54 ทำได้ 2.7% เป็นเพราะลดสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐลงมา ซึ่งสินเชื่อภาครัฐจะชะลอตัวเนื่องจากรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จึงหันมาเน้นขยายสินเชื่อภาคเอกชน โดยเฉพาะสินเชื่อSME และ Retail และแนวโน้มธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

ดังนั้นจึงได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54 จาก 1.88 หมื่นล้านบาท เป็น 2.15 หมื่นล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 14% รวมทั้งปรับราคาพื้นฐานจาก 22.40 บาท เป็น 25.60 บาท

"ครึ่งปีหลังมีโอกาสว่า NIM จะยังสูงขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ก็ concern เรื่องการแข่งขัน ทั้งนี้ story ของเขาคือหนึ่ง การปรับ loan สอง NIM Sustain สาม Operating cost ปีนี้จะลดลง ปีนี้ค่อนข้างเด่น แต่ปีหน้าคิดว่าโตไม่มาก เพราะปีนี้เติบโตสูง" น.ส.ศศิกร กล่าว

ด้านน.ส.อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส ก็ได้แนะ"ซื้อ" KTB เพราะคาดว่า สินเชื่อจในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการปล่อยสินเชื่อ และคาดว่าสินเชื่อเอกชนจะโตต่อเนื่อง ทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น ขณะที่สินเชื่อภาครัฐจะเริ่มกลับเข้ามาเมื่อรัฐบาลจะเข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ธนาคารกรุงไทยจะมีกำไรสุทธิในปี 54 จำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 39% จากปีก่อน

"ราคาหุ้นตอนนี้ยังต่ำกว่าที่ประเมินไว้ มี PBV 1.7 เท่า และยังมี divided yield ปีละเกือบ 4% จากราคาที่เราให้ไว้ 25.50 บาท PBV 2 เท่าก็โอเค เพราะมองว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก"น.ส.อุษณีย์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา คงคำแนะนำ"ซื้อ" KTB จากความโดดเด่นด้านการเติบโตของสินเชื่อ, คุณภาพสินเชื่อปรับดีขึ้น และ ROE อยู่ในทิศทางปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ได้ปรับมูลค่าพื้นฐานจาก 22.50 บาท เป็น 23.75 บาท ปรับ Prospective P/BV จาก 1.8 เท่า เป็น 2.0 เท่า สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อความสามารถการทำกำไรสูงขึ้น โดยปรับสมมติฐาน ROE ปี 54 เพิ่มขึ้นจาก 14.4% เป็น 16.8% และ ROE ปี 55 เพิ่มขึ้นจาก 15.1% เป็น 17.7%

และ การปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 54 เพิ่มขึ้นเป็นเป็น 2.16 หมื่นล้านบาท(+42.3%YoY) และ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เพิ่มเป็น 2.49 หมื่นล้านบาท (+15.1%YoY)สาระสำคัญจากปรับสมมติฐาน NIM จาก 2.9% เป็น 3.0% และปรับกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ