EARTH เผยปริมาณถ่านหินสำรองเหมืองอินโดฯ7.4 ล้านตันพร้อมดำเนินการทันที

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 16, 2011 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เปิดเผยว่า ผู้ประเมินอิสระและมีใบอนุญาตในการออกรายงาน JORC ( Joint Ore Reserves Committee) ได้จัดส่งรายงานการประเมินเหมืองทั้ง 2 แห่งในอินโดนีเซียของ TTP ให้แล้ว โดยเป็นเหมืองเปิดทั้งคู่ตั้งอยู่ที่ South Kalimantan มีปริมาณสำรองถ่านหิน (Measured) อยู่ที่ 7.4 ล้านตัน

"ขณะนี้รอเพียงผลการอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 ก.ย.54 นี้ เมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้วบริษัทพร้อมจะเข้าไปดำเนินการขุดถ่านหินจากเหมืองและจัดจำหน่ายถ่านหินจากเหมืองได้ทันที" นายขจรพงศ์ กล่าว

นายขจรพงศ์ กล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ EARTH นับจากนี้จะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เพราะการมีเหมืองถ่านหินเป็นของบริษัทเองจะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากคู่ค้าว่าสามารถส่งสินค้าได้ตามปริมาณและระยะเวลาส่งมอบ ที่สำคัญคือทำให้ EARTH มีความมั่นคงของธุรกิจถ่านหิน ซึ่งจะลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง รวมถึงทำให้อัตรากำไรของบริษัทดีขึ้น

สำหรับผลประกอบการโดยรวมงวดไตรมาส 2/54 สิ้นสุด วันที่ 30 มิ.ย.54 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 93.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 2,135% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.17 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 155.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 119.77% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 12.04 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,961.79 ล้านบาทในไตรมาส 2/54 เพิ่มขึ้นจาก 686.35 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 185.83 เนื่องจากสามารถจำหน่ายถ่านหินในปริมาณที่สูงขึ้น และราคาถ่านหินจำหน่ายเฉลี่ยต่อตันปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันมีกำไรขั้นต้น 320.97 ล้านบาทในไตรมาส 2/54 เพิ่มขึ้นจาก 103.81 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 209.19

“ผลการดำเนินงานของ EARTH เติบโตอย่างมากในครั้งนี้ เนื่องมาจากบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมียอดขายที่สูงขึ้นและความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความมุ่งมั่นในการทำงานและการทุ่มเทอย่างเต็มที่จากทั้งคณะผู้บริหารและพนักงานของ EARTH ทุกคน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัท ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างที่เห็น"นายขจรพงศ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ