ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (19 ส.ค.) โดยดัชนีดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าร่วงลง 192.09 จุด หรือ 2.15% แตะที่ 8,751.67 จุด
ราคาหุ้นร่วงลง 32 กลุ่มจากทั้งหมด 33 กลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตแก้วและเซรามิกร่วงลงหนักสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและกลุ่มเหมืองแร่ ส่วนหุ้นกลุ่มขนส่งทางบกเป็นหุ้นกลุ่มเดียวที่ปิดบวกในภาคเช้า
ดัชนีนิกเกอิร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้
โบรกเกอร์กล่าวว่า กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิดแอตแลนติกของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ -30.7 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ +3.7 จุด และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 408,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 400,000 ราย
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้ในยูโรโซนจะลุกลามไปยังระบบการธนาคารของสหรัฐ ยังได้กระตุ้นให้เกิดแรงขายมากขึ้นด้วย