บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)(KEST) ยอมรับว่าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้อาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 13% เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน และมีช่วงหนึ่งที่นักลงทุนรายย่อยหายไปจากตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีงานวาณิชธนกิจ(IB)ในมือขณะนี้ราว 13-20 ดีล ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปีนี้ราว 4-5 ดีล
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KEST กล่าวว่า มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 11.52% เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนทำให้นักลงทุนบางส่วนมีการชะลอลงทุน ซึ่งอาจจะทำให้มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 13% จากปีก่อน 12.7% โดยสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้ารายได้และกำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 3.11 พันล้านบาท และกำไร 800 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง นายมนตรี คาดว่า น่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังจากเดือน ก.ค.-ส.ค.ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับตัวเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีนี้จะเพิ่มเป็นเฉลี่ย 3.0-3.2 หมื่นล้านบาท/วัน จากปีกอ่น 2.8 หมื่นล้านบาท/วัน
ปัจจุบัน KEST มีงานด้านวาณิชธนกิจ(IB)จำนวน 13-20 ดีล แบ่งเป็น การควบรวมกิจการ(M&A)3-4 ดีล กองทุนอสังหาริมทรัพย์(พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์) 2-3 ดีล การกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)4-5 ดีล การเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) 1-2 ดีล การออกตราสารหนี้ 1-2 ดีล งานที่ปรึกษาอื่นๆ 2-4 ดีล โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสรุปงาน IB จำนวน 4-5 ดีล
นายมนตรี กล่าวว่า สำหรับการที่เมย์แบงก์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะช่วยสนับสนุนในด้านการลงทุน โดยเมย์แบงก์มีสินทรัพย์สูงถึง 3.66 ล้านล้านบาท พร้อมกันนี้จะให้การสนับสนุนทั้งในด้านของไอที ด้านงานวิจัย โดยทางเมย์แบงก์จะส่งกรรมการ 1 คน ในกรรมการต่างประเทศ ขระที่กรรมการอิสระและกรรมการบริหาร คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในช่วง 2 เดือนจากนี้ทางกลุ่มเมย์แบงก์จะมีการทำแผนงบการเงินรวมเป็นครั้งแรก และยังไม่มีแผนนำ KEST ออกจากตลาดหุ้นไทย
“ภาพของกิมเอ็งหลังจากเปิดเสรีและเมย์แบงก์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังเชื่อว่าเราน่าจะเติบโตได้ เรามีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาด งานวิจัยที่ได้รับความเชื่อถือ และด้าน ไอบี...ในความคิดเห็นส่วนตัวอยากให้เกิดชะลอการเปิดเสรีออกไปก่อน หลังมองว่าตลาดในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวน ไม่เคยเห็นดาวน์โจนส์ผันผวนขนาดนี้ ก็คิดว่าทางผู้บริหารหลายๆคนก็คิดในทำนองเดียวกัน น่าจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอต่อทางสมาคมฯ"นายมนตรี กล่าว