โบรกฯเชียร์"ซื้อ"ADVANC กำไร Q3 โตต่อเนื่อง-ลุ้นไลเซ่นส์ 3G ปลายปี 55

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 30, 2011 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)จากผลประกอบการที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจ Non-voice จากสมาร์โฟนที่ยังเติบโตได้ดี และการเริ่มเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม 900MHz ทำให้ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น

และหากมีการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ใหม่จะยิ่งช่วยลดต้นทุนสัมปทานเหลือเพียง 6-8% ของรายได้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 24-25% ทั้งนี้โบรกเกอร์คาดว่าจะมีการเปิดปรมูลใบอนุญาต 3G ในปลายปี 55 หรือต้นปี 56 หลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)จัดตั้งได้แล้ว ทำให้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์อยู่

ขณะที่ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทได้ลดลง หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ ทำให้ไม่มีการพูดถึงความเสียหายจากการแก้ไขสัญญาสัมปทานอีก

          โบรกเกอร์              คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กรุงศรีอยุธยา           ซื้อ                       129.00
          บล.ดีบีเอสฯ               ซื้อ                       140.00
          บล.เกียรตินาคิน            ซื้อเก็งกำไร                130.00
          บล.เอเซียพลัส             ซื้อ                       167.00
          บล.ฟาร์อีสท์               ซื้อ                       153.00
          บล.ไอร่า                 ซื้อ                       148.00
          บล.โกลเบล็ก              ซื้อ                       140.00
          บล.บัวหลวง               ซื้อ                       165.00

นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ADVANC มีผลประกอบการที่เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาด Non-voice เริ่มเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม 900MHz ช่วยหนุนปริมาณการใช้งานด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังจากตลาดสมาร์ทโฟน ที่มีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 53 ขณะที่ธุรกิจ VOICE ตลาดได้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว โดยพบว่ามีอัตราการใช้เกิน 100% โดยมีจำนวน SIM อยู่ที่ 114% ของจำนวนประชากร

การเปิดให้บริการ 3G ที่กระตุ้นให้ปริมาณการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้น และยังทำให้ต้นทุนสัมปทานลดลง จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 24-25% และหากมีการประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ใหม่ 2.1GHz ที่คาดว่าน่าจะเป็นในช่วงครึ่งหลังปี 55 และเริ่มให้บริการในปลายปี 56 จะทำให้ต้นทุนสัมปทานเหลือเพียง 6-8% ของรายได้ แต่ในปีนี้บริษัทยังมีต้นทุนจากค่าใช้จ่ายในการวางโครงข่ายและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในการเปิดบริการ 3G

ขณะที่ คาดว่า กำไรในไตรมาส 3/54 จะเติบโต 25% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็น 6,200 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/54 (QoQ) กำไรใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้ในปี 54 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ 123,177 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24,931 ล้านบาทคิดเป็นอัตราการเติบโต 13% จากปีก่อน และ จากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ด้วย Free cash flow เฉลี่ยกว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อปี ทำให้ในปีนี้บริษัทยังจ่ายเงินปันผลในอัตราสูง คาดว่าทั้งปีอยู่ที่ 8.39 บาทต่อหุ้น ซึ่งให้อัตราผลตอบแทน 7% จากราคาปัจจุบัน

สำหรับปี 55 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ 129,270 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 26,158 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 54 ซึ่งเป็นการเติบโตไม่มาก เนื่องจากมองว่าธุรกิจ Non-voice ในปีหน้าจะเริ่มชะลอตัว

ส่วนความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทม มีเพียงเรื่องเดียวคือการเมืองหากมีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน แต่หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่แล้ว ไมได้มีการนำเรื่องนี้มาหารือกันอีกเลย จึงมองความเสี่ยงของธุรกิจลดลงไปแล้ว

"ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตดีต่อเนื่อง และ ADVANC ถือเป็นหุ้นที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็งสุดสุดในกลุ่มฯ จากกระแสเงินสดสุทธิที่แข็งแกร่ง และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง ในขณะที่มูลค่าพื้นฐานในปี 54 ที่ 129 บาท หากรวม 3G บนใบอนุญาตใหม่คลื่น 2.1GHz มูลค่าที่เหมาะสมจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 156 บาท"นายถกล กล่าว

ด้านนายประสิทธิ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า หุ้น ADVANC น่าสนใจจากประเด็นการจะได้ใบอนุญาต 3G บนคลื่นใหม่ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งดำเนินการเรื่องนี้ได้เร็ว ประเมินว่าอย่างเร็วน่าจะเปิดประมูลได้ปลายปี 55 หรืออย่างช้าสุดในปี 56 ทำให้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากประเด็นนี้

อีกทั้งในปีหน้าบริษัทจะเสียภาษีนิติบุคคลลดลงตามนโยบายรัฐบาลจากที่ต้องจ่าย 30% เหลือ 23% เป็นผลดีให้กำไรดีขึ้นด้วย

ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/54 แม้ว่าไตรมาสนี้จะเป็นช่วงlow season และมีภาวะน้ำท่วม แต่เนื่องจากมีการเติบโตการใช้งาน data ทำให้ผลกระทบเกิดไม่มาก คาดว่ากำไรจะออกมาประมาณ 5,800 - 6, 000 ล้านบาท เติบโต 20% YoY แต่ลดลง 1-2% จาก QoQ

ทั้งปี 54 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 18% เป็น 24,249 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น (EPS)เท่ากับ 8.16 บาท คาดว่าปีนี้จะปันผลประมาณ 9 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 7%

"คิดว่า safe สุดเทียบกับหุ้นในปัจจึบัน เป็นหุ้นที่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกเท่าไร ส่วนน้ำท่วมมีผลกระทบบ้างแต่คิดว่าไม่มีนัย" นายประสิทธิ์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า ในไตรมาส 3/54 ซึ่งเป็นช่วง Low Season คาดรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) ยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้าที่ 239 บาท ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากรายได้บริการ Non-Voice ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คาดจำนวนสมาชิกใหม่ยังเติบโตราว 2 แสนราย ส่งผลให้คาดรายได้ค่าบริการโดยรวม (ไม่รวมค่า IC) ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า และคาดกำไรสุทธิ 5,806 ล้านบาท ลดลง 5.1% qoq แต่ยังเติบโตถึง 18.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนไตรมาส 4/54 ฃอานิสงค์จากช่วง High Season บวกกับการรุกขยายให้บริการ 3G เป็น 1,884 สถานีตามเป้าหมายของปีนี้ได้ตั้งแต่ช่วงต.ค. 2554 ทำให้คาดว่า ADVANC จะมียอดสมาชิกใหม่เพิ่มจำนวนมาก และช่วยหนุนให้รายได้บริการ Non-Voice พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคาดจะทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเฉลี่ยขยับสูงขึ้นในงวดนี้ และแม้จะถูกหักล้างบางส่วนจากงบค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่เชื่อว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/54 จะสร้างสถิติสูงสุดในรอบปี และอาจจะสามารถทำให้สถิติสูงสุดใหม่ได้ และช่วยให้กำไรสุทธิทั้งปี 2554 เติบโตราว 18.3% จากปีก่อน และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 13% ในปี 55

ADVANC เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปกติไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิ โดยคาดเงินปันผลทั้งปี 2554 ที่หุ้นละ 8.20 บาท คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 7.1% นอกจากนี้ยังคาดว่า ADVANC จะเป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลใบอนุญาตใหม่ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ที่กสทช. จะเปิดให้ประมูลภายในปี 55 โดยใบอนุญาตใหม่นอกจากจะช่วยให้ ADVANC มีอายุการให้บริการเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ต้นทุนของ ADVANC ลดลงในระยะยาว เพราะส่วนแบ่งรายได้ที่จ่ายให้กสทช. เพียง 6% ของรายได้ และแม้รวมค่าประมูลคลื่นความถี่แล้ว ต้นทุนดังกล่าวคาดจะอยู่ที่ราว 10-12% ซึ่งต่ำกว่าสัมปทานปัจจุบันที่จ่ายส่วนแบ่งรายได้ระบบเติมเงินที่ 20% และระบบรายเดือนที่ 30% ให้แก่ บมจ.ทีโอที

นอกจากนี้ยังคาดผลประกอบการปี 55 โดดเด่นสุด เนื่องจากภายใต้สัมปทานปัจจุบัน คู่แข่งอย่าง DTAC และ TRUE จะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้แก่กสท. โทรคมนาคม เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30% ขณะที่ส่วนแบ่งรายได้ของ ADVANC ยังคงเดิม จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ" และเลือก ADVANC เป็น Top Pick


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ