นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง เป็นไปตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง 3-4% เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศแถบยุโรป ซึ่งถือเป็นวิกฤติของกลุ่มยูโรโซนที่รวมตัวกันมา 8 ปี ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวได้ยาก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงในวันนี้ ยังไม่ได้รายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้รับทราบ เนื่องจากยังไม่ปรับตัวลงถึงระดับ 5% และหากลงแรงถึง 10% ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีระบบเซอร์กิต เบรกเกอร์รองรับอยู่แล้ว
"การที่ตลาดหุ้นวันนี้ร่วงแรง ยังไม่น่ากังวล เพราะวอลุ่มยังน้อย แต่เป็นห่วงในภาพการลงทุนเพราะสถานการณ์ของยุโรปคงยังไม่ชัดเจนในระยะยาว แต่ยืนยันว่าตลาดฯมีมาตรการรองรับ" นายจรัมพร กล่าวอย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว เนื่องจากปัญหาของยุโรปยังไม่ความชัดเจน และยังไม่รู้แนวทางการแก้ปัญหา ในขณะที่ตลาดหุ้นถือว่ามีความอ่อนไหวต่อข่าวสารต่างๆ ดังนั้น นักลงทุนต้องติดตามผลกระทบและคำแนะนำของนักวิเคราะห์ก่อนเข้าลงทุน
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ปัญหาหนี้สินยุโรปมองว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย แต่พื้นฐานไทยยังมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการบริโภคในประเทศ แต่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ความสามารถการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนยากขึ้น เนื่องจากยูโรโซนอาจมีเศรษฐกิจที่ติดลบ ดังนั้น ระยะสั้นจึงมีการขายหุ้นบ้าง แต่ในระยะยาวน่าจะให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลในระดับสูง ซึ่งปีนี้น่าอยู่ที่ 4.5% และปี 55-56 น่าจะอยู่ที่ 5% เนื่องจาก บจ.มีการเติบโตที่ดี
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมนักวิเคราะห์ฯ จะได้เชิญนักวิเคราะห์มาระดมความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของเศรษฐกิจยุโรป เพื่อนำมาจัดทำบทวิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป