บลจ.ไทยพาณิชย์ได้เป็นผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล สบน. มูลค่า 1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 13, 2011 14:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลของ สบน. เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมรองรับการชำระคืนหนี้พันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่จะครบกำหนดชำระคืนในเดือนสิงหาคม 2555

บริษัทฯเป็นหนึ่งบริษัทจัดการกองทุนที่ได้รับคัดเลือก ภายใต้วงเงินบริหารจัดการขั้นแรก 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดสินทรัพย์กองทุนส่วนบุคคลรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 200% เมื่อเทียบจากสิ้นปี 53 ที่มียอดประมาณ 10,000 ล้านบาท

นางโชติกา กล่าวว่า สถานการณ์กองทุนส่วนบุคคลในขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการจากนักลงทุนทั้งสถาบันและบุคคลรายย่อยมากขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาพบว่ากองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบมีสินทรัพย์รวมเกือบ 3 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมองว่าการบังคับใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากขณะนี้ไม่ได้ส่งผลให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคลมากนัก แต่มาจากความต้องการมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการเงินลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังมากกว่า

บริษัทมีอัตราการเติบโตกองทุนส่วนบุคคลที่มาจากลูกค้ากลุ่มสถาบันกว่า 80% เนื่องจากองค์กรต่างๆเริ่มให้ความสนใจในกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มสถาบันการศึกษา สหกรณ์ออมทรัพย์ และมูลนิธิต่างๆ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินมากนัก แต่เมื่อสถานการณ์การลงทุนมีความผันผวนมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้องค์กรเหล่านี้ต้องมองหามืออาชีพเข้ามาบริหารการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทประกันที่เคยบริหารการลงทุนของตนเอง แต่อาจมีผลตอบแทนที่ยังไม่น่าพอใจ ก็เริ่มแบ่งพอร์ตการลงทุนออกมาให้กองทุนส่วนบุคคลบริหารมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับกลยุทธ์การบริหารกองทุนส่วนบุคคล คือ การทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้บริษัทได้ทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการมากขึ้น และจะมีทีมงานที่ดูแลการจัดพอร์ตการลงทุนให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ระยะเวลา และความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้เพื่อจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ร่วมกัน

"ในอนาคต กองทุนส่วนบุคคลจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก ซึ่งการแข่งขันจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ บริษัทยังคงนโยบายโฟกัสกลุ่มลูกค้าสถาบันเช่นเดิม นอกจากลูกค้ากลุ่มที่กล่าวมา บริษัทยังเป็นผู้บริหารกองทุนส่วนบุคคลให้กับบริษัทเอกชน องค์กรอิสระด้านสาธารณกุศล องค์กรกำกับของรัฐ และ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้นำในการบริหารกองทุนส่วนบุคคลกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ ส่วนที่เหลือจะเป็นลูกค้าบุคคลธรรมดาที่มีเงินลงทุนสูง" นางโชติกากล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ