
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ. กลุ่มสมอทอง [SMO] เปิดเผยว่า APM ได้ดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 231,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 25.17 ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่ม SMO และบริษัทย่อย ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยกลุ่มบริษัทประกอบด้วย SMO เป็นบริษัทใหญ่ มีทุนจดทะเบียน 920.00 ล้านบาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 688.40 ล้านบาท และบริษัทย่อยอีก 3 บริษัท คือ 1.บริษัท มิตรประสงค์กรีนเพาเวอร์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 2.บริษัท เอ แอล ปาล์ม จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ และบริษัท ทีมอีโวลูชั่น จำกัด ถือหุ้นอยละ 49.44 โดยปัจจุบันยังไม่มีการประกอบธุรกิจ
นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMO เปิดเผยว่า บริษัทเกิดจากผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์มายาวนานทั้งด้านการจัดซื้อวัตถุดิบ ด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีการก่อสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ทำให้ภายในระยะเวลาเพียง 15 ปี นับจากเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ สามารถพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทขยายตัวอย่างรวดเร็วและมั่นคง เติบโตอย่างแข็งแกร่งจนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ของประเทศในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม มีกำลังการผลิตรวม 240 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง
โรงงานของ SMO กระจายอยู่ในพื้นที่ 4 แห่ง ได้แก่ 1.โรงงานสาขาท่าชนะ ตั้งอยู่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2.โรงงานสาขาพนม ตั้งอยู่อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3.โรงงานสาขาสระบุรี ตั้งอยู่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และ 4.โรงงานของบริษัท เอ แอล ปาล์ม จำกัด (บริษัทย่อย) ตั้งอยู่อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ซึ่งครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์ของอุปทานปาล์มสดที่สำคัญของประเทศ โดย SMO เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทย นับเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม
ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 14.38 เมกะวัตต์ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) รวม 12.7 เมกะวัตต์ มีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
บริษัทมีกลยุทธ์สำคัญของกลุ่มบริษัทที่สร้างความแตกต่างและสามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งโรงงานในจุดยุทธศาสตร์ใกล้แหล่งวัตถุดิบ และถนนเส้นทางสายหลัก และการมีช่องทางในการขายสินค้าทั้งใน และต่างประเทศช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการขาย และลดการพึ่งพิงการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะกลมเพื่อการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (Roundtable Sustainability Palm Oil: RSPO)
ขณะที่วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อลงทุนเพิ่มในธุรกิจผลิต และจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ โดยมุ่งเน้นการขยายโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบไปในพื้นที่อื่นนอกเหนือจากที่กลุ่มบริษัทมี ซึ่งเป็นธุรกิจที่กลุ่มบริษัทมีความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม และ/หรือ ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องซึ่งอยู่ในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน ซึ่งเป็นการต่อยอดการผลิตภัณฑ์หลักของธุรกิจ และลงทุนในโครงการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
