
บลจ.กรุงศรี เปิดตัว 3 กองทุนThai ESGX เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของเงินลงทุนใหม่และเงินสับเปลี่ยนจาก LTF ได้แก่ กองทุน KF70-THAIESGX ซึ่งสร้างสมดุลด้วยการลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้, กองทุน KFS50-THAIESGX ที่เน้นลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ที่มี ESG ดีเด่นและมีความมั่นคง และกองทุน KFAEQ-THAIESGX ที่เสริมการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม และเริ่มเปิดรับการสับเปลี่ยนจาก LTF วันที่ 13 พ.ค. นี้
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจจากระดับราคาหุ้นในปัจจุบันที่ได้สะท้อนปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ไปในระดับที่เหมาะสมแล้ว โดยเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วน PBV ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับช่วงวิกฤต COVID-19 ซึ่งเป็นผลจากการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในดัชนีฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.5% นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าในอนาคตหลายบริษัทอาจจะดำเนินการซื้อหุ้นคืน ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและตลาด
นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทที่ให้ความสำคัญด้าน ESG ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ด้านความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ นั้น บริษัทมองว่าหากรัฐบาลไทยสามารถเจรจาแล้วได้ผลลัพธ์ในเชิงบวก เช่น การยืดเวลาหรือการยกเว้นมาตรการภาษี ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ณ สิ้นปี 2568 ไว้ที่ระดับ 1,200 จุด
จากปัจจัยบวกต่างๆ ดังกล่าว บลจ.กรุงศรี จึงได้เปิดเสนอขาย 3 กองทุน Thai ESGX เพื่อครอบคลุมทุกความต้องการในการลงทุนควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่
- กองทุนเปิดกรุงศรี 70/30 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KF70-THAIESGX) กองทุนผสมที่กระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ด้วยสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยเชิงรุก 70% ในบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG และมีศักยภาพในการจ่ายปันผลสูง และลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน 30%
- กองทุนเปิดกรุงศรี SET50 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KFS50-THAIESGX) กองทุนหุ้นที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive มีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50FF Total Return ซึ่งเป็นการลงทุนที่สะท้อนโอกาสในการเติบโตจากหุ้นขนาดใหญ่ในตลาด
- กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นแอคทีฟไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KFAEQ-THAIESGX) กองทุนที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active โดยเน้นลงทุนเชิงรุกในหุ้นไทย พร้อมการลงทุนในหุ้นต่างประเทศไม่เกิน15% ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงอีกด้วย
"บลจ.กรุงศรี เชื่อว่าการลงทุนในกองทุน Thai ESGX จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม และช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นางสุภาพร กล่าว