บมจ.ไลท์ซอร์ส กรุ๊ป [LSG] ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 100,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์การระดมทุน 1. ซื้อทรัพย์สินเพื่อลงทุนกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน 2. การขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ 3. การลงทุนในการพัฒนาระบบและบุคลากร และ 4. การใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
LSG จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2532 มีบริษัทย่อย 1 แห่ง คือ บริษัท เพลย์ ยูไนเต็ด จำกัด (PLAY) ซึ่ง LSG ถือหุ้น 100% บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบแสงครบวงจร สำหรับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมการแสดงและความบันเทิงประเภทต่าง ๆ ได้แก่ 1) การแสดงและกองถ่าย เช่น งานคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี ละครเวที และรายการโทรทัศน์ ทั้งรูปแบบการแสดงสดและการถ่ายทอด และ 2) งานอีเวนต์หลากหลายประเภท เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานแถลงข่าว และงานประชุมสัมมนา
การให้บริการหลักของกลุ่มบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่ การออกแบบระบบแสง การให้บริการอุปกรณ์ระบบแสงและอุปกรณ์สนับสนุนที่เกี่ยวข้อง การติดตั้ง และการควบคุมระบบแสงระหว่างการแสดง นอกจากนี้ ยังให้บริการบริหารโครงการและงานอีเวนต์แบบครบวงจร (Project and Event Management) ซึ่งบริษัทฯ จะให้บริการด้านอุปกรณ์ โดยเฉพาะประเภทงานคอนเสิร์ต และเทศกาลดนตรี ขณะที่ PLAY จะให้บริการการจัดงาน เช่น งานอีเวนต์ทางการตลาด การส่งเสริมการขายขององค์กร งานนิทรรศการ และงานประชุมสัมมนา เป็นต้น
อีกทั้ง การให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ ยังครอบคลุมถึงการออกแบบและจำหน่ายระบบแสงสำหรับการติดตั้งถาวรในสถานที่ของลูกค้า เช่น โรงละคร สวนสนุก และสถานบันเทิง พร้อมกับการให้คำปรึกษาด้านงบประมาณ การดูแลการติดตั้ง การตรวจสอบระบบ และการฝึกอบรมการใช้งานระบบแสง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานและความคุ้มค่าในการลงทุนของลูกค้า
กลุ่มลูกค้าหลักประกอบด้วยผู้ถือสิทธิในการจัดงานที่สรรหาศิลปินต่างชาติเพื่อมาจัดแสดงในประเทศไทย เช่น บริษัท ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด รวมถึงผู้ถือสิทธิในการจัดงานสำหรับงานคอนเสิร์ตศิลปินไทยขนาดใหญ่ เช่น บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ [GRAMMY] และ บมจ.อาร์เอส [RS] ซึ่งมีความต้องการใช้อุปกรณ์ระบบแสงที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีมาตรฐานระดับสูง พร้อมฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายและซับซ้อน เพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำและแตกต่างให้กับผู้รับชมงานแสดง
ในปี 2567 กลุ่มเป็นผู้ให้บริการทั้งระบบแสง รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบเสียง จอภาพ เวที โครงสร้าง และเทคนิคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเบ็ดเสร็จและครบทุกมิติ โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการให้บริการสำหรับงานสำคัญต่าง ๆ เช่น งาน 2024 SUPER JUNIOR งาน 2024 IU HEREH WORLD TOUR งาน MARK TUAN ASIA TOUR 2024 และ งาน S2O Songkran Music Festival เป็นต้น
บริษัทมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 100 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 18 เม.ย.2568 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 ราย ได้แก่ นายนรเศรษฐ สมบูรณ์วงศ์, นายอุดม สิทธิการุณ , นายปรีชา ชมภูผล , นายวสันต์ วิญญรัตน์, นายพลวัฒน์ ศุขจรัส ถือหุ้นเท่า ๆ กันรายละ 19.00% หลังขายหุ้น IPO สัดส่วนแต่ละคนจะลดลงเหลือ 12.67% ส่วนผู้ถือหุ้นอันดับ 6 คือ นางสาวจินดา ลำธารทิพย์ ถือหุ้น 5.00% จะลดเหลือ 3.33%
บริษัทมีโครงสร้างรายได้ของกลุ่ม มี 4 ประเภท ได้แก่ รายได้จากธุรกิจการให้บริการระบบแสงครบวงจร, รายได้จากธุรกิจการบริหารโครงการและงานอีเวนต์แบบครบวงจร (Project and Event Management), รายได้จากธุรกิจการให้บริการอื่นๆ เช่น ให้เช่า ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษา และ รายได้จากธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ระบบแสง และ/หรือ อุปกรณ์สนับสนุนที่เกี่ยวข้อง
ผลประกอบการปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้เท่ากับ 164.01 ล้านบาท 359.73 ล้านบาท และ 378.97 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจาก (1) ธุรกิจการให้บริการระบบแสงครบวงจร คิดเป็น 54.90-66.29% และ (2) ธุรกิจการบริหารโครงการและงานอีเวนต์แบบครบวงจร คิดเป็น 23.34-35.22% ของรายได้รวม ตามลำดับ
ส่วนกำไรสุทธิในช่วงปี 2565-2567 เท่ากับ 28.95 ล้านบาท, 79.91 ล้านบาท และ 67.46 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 23.75% 22.21% และ 17.80% ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้บุคคล และหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมาย และบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี ภาระผูกพันตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้