นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ หลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก โดยที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้ไม่มีมีการเซอร์ไพร์สตลาด โดยที่เฟดยังคงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด และยังรอติดตามข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฐและจีนว่าจะมีความชัดเจนออกมาอย่างไร ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจเกี่ยวกับปัจจัยสงครามการค้าที่ปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับติดตามการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดเช้าวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,230 จุด แนวรับ 1,200 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,113.97 จุด เพิ่มขึ้น 284.97 จุด หรือ +0.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,631.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.37 จุด หรือ +0.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,738.16 จุด เพิ่มขึ้น 48.50 จุด หรือ +0.27%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 36,863.38 จุด เพิ่มขึ้น 83.72 จุด หรือ +0.23%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,589.13 จุด ลดลง 102.75 จุด หรือ -0.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,331.21 จุด ลดลง 11.46 จุด หรือ -0.34%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 พ.ค.) 1,220.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.41 จุด (+2.73%) มูลค่าซื้อขาย 53,984.70 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (7 พ.ค.) 4,546.34 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (7 พ.ค.) ลดลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 58.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 พ.ค.) อยู่ที่ 5.89 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.83 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด
- ครม.ถกวาระลับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน-ดีเซล สูงสุด 1 บาทต่อลิตร พร้อมขยับส่วนภาษีท้องถิ่น ประกาศราชกิจจาฯ มีผลทันที 7 พ.ค.ที่ผ่านมา "คลัง" ชี้ดึงเงินเข้ารัฐ 3.48 หมื่นล้านต่อปี ช่วงเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน ช่วยเพิ่มการจัดเก็บรายได้รัฐบาล กบน.ปรับเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับภาษีสรรพสามิตตรึงราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการน้ำมัน ลดผลกระทบประชาชน
- กกร.หั่นประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ลงเหลือ 2.0-2.2% ชี้หากไทยโดนภาษีนำเข้าสหรัฐ 36% ฉุดส่งออกทั้งปีหดตัว 2% จีดีพีโต 0.7-1.4% กรณีเลวร้ายต่อรองไม่ได้ โดนภาษีเพิ่ม 36% กระทบลากยาว 10 ปี ส่งออกไปสหรัฐวูบ 1.4 ล้านล้านบาท จี้รัฐเร่งเจรจาสหรัฐ ด้านแบงก์ชาติ "จีน" ประกาศลดดอกเบี้ยพร้อมออกมาตรการสู้ภาษีทรัมป์
- "ไทยบีเอ็มเอ" เผย "ฟันด์โฟลว์" ทะลักเข้า "บอนด์ไทย" อายุน้อยกว่า 1 ปี ช่วง 2 วัน เฉียด 4 หมื่นล้าน หวัง "พักเงิน" ระยะสั้น และ เก็งกำไร "บาทแข็ง-ลุ้นแนวโน้มกนง.ลดดอกเบี้ย-ผลประชุมเฟด" ชี้ตั้งแต่ต้นปีซื้อสะสมเฉียด "แสนล้าน" ย้ำภาพรวมตลาดยังมีเสถียรภาพรองรับเหตุไม่ปกติ "บล.เอเซียพลัส" พบโฟลว์เข้าบอนด์ทำ "นิวไฮ" ในรอบปีนี้ พร้อมสลับเข้าหุ้นไทย "บล.กสิกรไทย" ชี้สารพัดปัจจัยหนุนต่างชาติเข้าเก็งกำไรระยะสั้นซื้อบอนด์-หุ้นไทย น่าสนใจ เพิ่มดันดัชนีฯ ทะลุ 1,200 จุด
- ททท.ปรับกลยุทธ์กระตุ้นท่องเที่ยวเร่งด่วน จ่อเสนอครม.เคาะ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" กระตุ้นช่วงโลว์ซีซัน ด้านผู้บริหาร CENTEL พร้อมร่วมสนับสนุนนโยบาย จัดแคมเปญการตลาด และโปรโมชัน ชี้ยอดจองห้องพักยังทรงตัว ขณะที่โบรกจับตาความสามารถการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว แนะพิจารณาลงทุนตามกระแส ส่อง CENTEL รับอานิสงส์โครงการไทยเที่ยวด้วยกัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- GULF (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60 บาท แนวโน้มธุรกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเป็น Holding ที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิตอล (Data center, Cloud, AI) โดยคาดกำไรปีนี้จะเติบโตราว +15%
- PR9 (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 26.80 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PR9 จากการประมาณการกำไรในไตรมาส 1/68 นี้โดย ผู้บริหารให้ความมั่นใจว่ามองว่ากำไร จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง YoY จากรายได้ที่ยังเติบโตในระดับสองหลักซึ่งโดยหลักมาจากการเติบโตของคนไข้ต่างชาติที่เติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ส่งผลให้สัดส่วนของรายได้คนไข้ต่างชาติสูงกว่าในไตรมาส 4/67 ที่ผ่านมานำโดยคนไข้กาตาร์และ PR9 กำลังเปิดตลาดในประเทศใหม่เช่น บังกลาเทศ และรายได้ของคนไทยที่เป็นความกังวลในช่วงที่ผ่านมาก็ยังสามารถเติบโตได้ YoY นอกจากนี้เราคาดว่า GPM จะยังสามารถปรับตัวดีขึ้นได้มากกว่าไตรมาส 1/67 แม้จะมีการแข่งขันด้านราคาบ้างในช่วงที่ผ่านมา เราคาดกำไรในไตรมาส 1/68 จะยังคงทำระดับจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
- CPN (พาย) ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/68 ที่ 4,227 ล้านบาท (+2%YoY, +9%QoQ) ใกล้เคียงที่เราคาด โดยเทียบกับปีก่อนเติบโตจากรายได้ศูนย์การค้าและโรงแรม ที่มีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ที่เปิดระหว่างปี ส่วนเพิ่มจากไตรมาส 4/67 และไตรมาสก่อนมีรายการพิเศษ หากไม่รวมกำไรปกติจะลดลง 4%QoQ จากรายได้อสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง แนวโน้มช่วงที่เหลือของปี คาดรายได้ยังเติบโตจากการเปิดศูนย์ใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 68 และมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐที่จะเริ่มในช่วงไตรมาส 2/68 นี้