ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 518,406 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 13, 2025 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (6 - 9 พฤษภาคม 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 518,406 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 129,601 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 41% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 55% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 287,044 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออก โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออก โดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 205,136 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขาย เท่ากับ 14,577 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29NA (อายุ 4.5 ปี) LB26DA (อายุ 1.6 ปี) และ LB266A (อายุ 1.1 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 27,247 ล้านบาท 15,420 ล้านบาท และ 13,664 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น WHAUP302A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 1,017 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT282B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 908 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV266A (AA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 763 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง 2-5 bps. จากที่นักลงทุนคาดการณ์คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลงอีก 2 ครั้งในครึ่งปีหลัง หลังจากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ประจำเดือนเม.ย.68 อยู่ที่ 100.14 ลดลง -0.22%(YoY) จากการลดลงของราคาสินค้า ในกลุ่มพลังงานและผักสด และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวประมาณ 2.0- 2.2% ต่ำกว่าประมาณการเดิม ที่ 2.4-2.9% จากผลกระทบของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยควบคู่กับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น (Stagflation) ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวันที่ 9 พ.ค. มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

สัปดาห์ที่ผ่านมา (6 - 9 พฤษภาคม 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 10,583 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิใน ตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 2,101 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 8,982 ล้านบาท และ มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 500 ล้านบาท

หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้

ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย                                    สัปดาห์นี้              สัปดาห์ก่อนหน้า     เปลี่ยนแปลง              สะสมตั้งแต่ต้นปี
                                                        (6 - 9 พ.ค. 68)   (28 เม.ย. - 2 พ.ค. 68)           (%)     (1 ม.ค. - 9 พ.ค. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท)              518,405.67               368,292.12        40.76%             7,612,379.49
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)                                129,601.42                92,073.03        40.76%                88,516.04
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index)                      111.12                   110.91         0.19%
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index)                    108.52                   108.43         0.08%

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้                   1 เดือน     6 เดือน     1 ปี     3 ปี     5 ปี     10 ปี     15 ปี     30 ปี
สัปดาห์นี้ (9 พ.ค. 68)                    1.58       1.57    1.57    1.56    1.61     1.85     2.11     2.64
สัปดาห์ก่อนหน้า (2 พ.ค. 68)               1.62       1.61     1.6    1.59    1.63      1.9     2.12     2.63
เปลี่ยนแปลง (basis point)                 -4         -4      -3      -3      -2       -5       -1        1

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ