บมจ.ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) [CFARM] แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในการลงทุนโครงการฟาร์มไก่ไข่ ประกอบด้วยอาคารสิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักรการผลิต โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 119.71 ล้านบาท และมีแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนโครงการฟาร์มไก่ไข่จากแหล่งเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และ/หรือการกู้ยืมสถาบันการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการต่อยอดการเติบโตของบริษัทและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจของบริษัทในอนาคต
นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ CFARM กล่าวว่า แผนกลยุทธ์การตลาดในปี 68 ยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน โดยแม้ว่าตลาดไก่จะมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตขึ้นในระยะนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มีความเสถียร โดยตลาดทั้งการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก ยังคงมีสัดส่วนที่ค่อนข้างคงที่ บริษัทมั่นใจว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัท สามารถรักษาการเติบโต และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับกำลังการเลี้ยงไก่เนื้อในปี 68 ยังคงอยู่ที่ประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบ หรือรวม 15.88 ล้านตัวต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มส่งออกซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนยอดขาย แม้ฐานการผลิตยังเท่าเดิม แต่บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากประสิทธิภาพการเลี้ยงสูง อัตราการรอดเกินกว่า 96% และน้ำหนักตัวเฉลี่ย 2.8-3 กิโลกรัม สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด นอกจากนี้ ไก่ยังบริโภคอาหารน้อยลงเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนลดลง ขณะราคาขายยังคงอยู่ในระดับสูง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
นายชูรัตน์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการส่งออกไก่เลี้ยงของไทยในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการบริโภคเนื้อไก่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เพราะเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งประเทศไทยยังคงรักษาจุดแข็งในฐานะหนึ่งในผู้ส่งออกไก่แปรรูปอันดับต้น ๆ ของโลกด้วยมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สนับสนุนศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างมั่นคง
สำหรับโครงการฟาร์มวัวนม บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยการลงทุนโครงการฟาร์มวัวนมบนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุดในไตรมาส 1/68 ได้ปรับหน้าดินแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงเรือนระบบปิดที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรองรับสภาพอากาศแปรปรวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้นม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสรุปการนำเข้าสายพันธุ์วัว อุปกรณ์การเลี้ยง และระบบรีดนม คาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำนมดิบล็อตแรกจากแม่วัว 1,250 ตัวในไตรมาส 1/69
นายชูรัตน์ คาดว่า ธุรกิจฟาร์มวัวนมจะสร้างรายได้มากกว่ารายได้ฟาร์มไก่เนื้อถึง 2 เท่า เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้แบบรายวัน แตกต่างจากธุรกิจฟาร์มไก่ที่รับรู้ตามรอบเลี้ยง
ด้านผลประกอบการภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัทมีรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะมีรายได้จากการขาย 48 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.5 แสนบาท