นายคอร์ราโด จาควินโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล [KISS] กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 68 ไว้ที่ช่วง 10 -15% ซึ่งขับเคลื่อนโดยแบรนด์ Rojukiss และกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก พร้อมการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง ขยายการจัดวางพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มโมเดิร์นเทรด และการเพิ่มจำนวนร้านค้าทั่วไปที่ครอบคลุมโดยตรงเป็นสองเท่า
ขณะที่การขยายตลาดต่างประเทศยังคงเป็นเสาหลักสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตระยะยาว โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศให้ถึง 20% ของรายได้รวมภายในปี 73 ผ่านสองกลยุทธ์หลัก ได้แก่ โมเดลการจัดจำหน่ายโดยตรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยร่วมมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าในกลุ่มโมเดิร์นเทรดและอีคอมเมิร์ซ พร้อมการสนับสนุนจากทีมงาน Rojukiss ที่มีประสบการณ์ในพื้นที่
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและจัดตั้งการดำเนินงานสำหรับกลุ่มประเทศต่างประเทศแรกของเรา ครอบคลุมเวียดนาม กัมพูชา และลาว โดยกลุ่มนี้จะบริหารโดยผู้จัดการฝ่ายขายที่มีประสบการณ์ประจำอยู่ที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มจัดส่งสินค้าได้ในไตรมาส 3/68 และการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในตลาดโลกเพื่อให้บริการกลุ่มตลาดที่กว้างขึ้น
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในปี 68 ข้อมูลล่าสุดจาก Nielsen Company ยืนยันว่า Rojukiss ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 2568 โดย Rojukiss Facial masks ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 16.7% เพิ่มขึ้นจาก 13% ในช่วงเดียวกันของปี 67 ขณะที่ Facial moisturizers เพิ่มขึ้นเป็น 5.3% จาก 4.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
แนวโน้มการเติบโตยังมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการจัดวางสินค้าในร้านค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของผู้บริโภคทั้งในช่องทางดิจิทัลและออฟไลน์ และที่สำคัญ Rojukiss สนับสนุนนวัตกรรมผ่านแคมเปญโฆษณาแบบองค์รวมที่เน้นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Face-Eye-Neck ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสินค้าหลักอย่าง Phyto-Retinol และ Pore Bright 10
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก 1/68 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม (Beauty care) ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 13% ในทุกช่องทาง โดยออฟไลน์เติบโต 12% ทั้งร้านค้า Modern Trade +7%, General Trade +4% และการค้าผ่านแดน (Cross Border) ซึ่งมียอดขายในไตรมาสนี้ 16 ล้านบาท ส่วนช่องทางออนไลน์ e-Commerce เติบโต 9% จากการทำการตลาดที่เน้นการรีวิวสินค้าโดย KOL/KOC การขายทาง Live Streaming และพันธมิตรเครือข่ายออนไลน์ (Affiliate)
โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) โดยเฉพาะแบรนด์หลักอย่าง Rojukiss ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 29% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น Cream และ Serum ของ Rojukiss Face Eye Neck, Rojukiss Reju PDRN, and Rojukiss Phyto-Retinol และในไตรมาสนี้ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ Affordable Hydrogel Mask, Rojukiss PoreBright 10, Rojukiss Dr.Shin B12 Pink Vitamin Moisturizer.
ปัจจัยการเติบโตมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี กลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างมูลค่าของแบรนด์มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นยอดขาย การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงินวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น กำหนดระยะเวลาในการที่จะซื้อหุ้นคืน 19 พฤษภาคม 68-18 พฤศจิกายน 2568