นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ [TSE] เปิดเผยว่า ในปี 68 กลุ่มบริษัทยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ที่ได้วางเป้าหมายไว้ ทั้งในเรื่องการขยายการลงทุนในธุรกิจหลักกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างๆจากที่ได้คัดเลือก และการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ การแตกไลน์สู่ธุรกิจด้านสุขภาพและความงามตามเมกะเทรนด์ของโลก โดยมั่นใจว่าด้วยฐานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มอัตรากำไรในธุรกิจให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้และปีต่อๆ ไปเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
"ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลและจัดหาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ เสริมศักยภาพในการทำกำไร และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น" นางสาวแคทลีน กล่าว
ปัจจุบัน กลุ่ม TSE ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ (แบบติดตั้งบนพื้นดิน ลอยน้ำ และบนหลังคา) และพลังงานชีวมวลในประเทศไทย ณ 31 มี.ค.68 มีโครงการที่ดำเนินการอยู่รวมทั้งสิ้น 62 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 382.86 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 34 โครงการ รวม 153.8 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาจากการได้รับคัดเลือกในโครงการ Solar Big Lot Phase 1 และ 2 จำนวน 28 โครงการ รวม 229.06 เมกะวัตต์ และมีกำหนด COD ระหว่างปี 70-73
ภาพรวมของผลการดำเนินไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้รวม 345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้ 312 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท มี EBITDA จากการดำเนินงานปกติ จำนวน 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี EBITDA จำนวน 150 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนรายได้มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าชีวมวลยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการดำเนินงานปกติ อีกทั้งกลุ่มบริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานจากการผลิตไฟฟ้า รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจสุขภาพ
เหตุการณ์สำคัญในไตรมาส 1/68 บริษัทได้ชำระคืนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 มูลค่า 1,200 ล้านบาท พร้อมจ่ายดอกเบี้ยครบเต็มจำนวน ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และได้ขายหุ้น บริษัท ไทย โซล่าร์ รีนิวเอเบิล จำกัด (TSR) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า (JV) ที่ถือหุ้น 60% หรือ จำนวน 35 ล้านหุ้น รวมมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งหากรวมหนี้สินสุทธิของกิจการ จำนวน 264.4 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค.67 คิดเป็นมูลค่ากิจการประมาณ 2,056 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 68
ขณะเดียวกัน บริษัทย่อยคือ บริษัท บางสวรรค์ กรีน จำกัด (BSW) กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญารับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากผู้ผลิตเพิ่มเติม จากเดิม 4.6 MW เป็น 5.2 MW โดยปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดส่วนเพิ่ม 0.6 MW ระยะเวลาสัญญา 2 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.69