BTG พลิกกำไร Q1/68 รับผลดีกลยุทธ์ปรับพอร์ตสินค้าเสริมด้วยแรงหนุนราคาหมู-ไก่เพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 14, 2025 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

BTG พลิกกำไร Q1/68  รับผลดีกลยุทธ์ปรับพอร์ตสินค้าเสริมด้วยแรงหนุนราคาหมู-ไก่เพิ่มขึ้น

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร [BTG] กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจเบทาโกรในไตรมาส 1/68 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและโปรตีนที่มีทิศทางสดใส อันเป็นผลจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักขององค์กร ด้วยการเจาะตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ การปรับพอร์ตสินค้าไปสู่ผลิตภัณฑ์และช่องทางจำหน่ายที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและอาหารพร้อมทาน และการจำหน่ายในช่องทาง Food Service และส่งออก ตลอดจนการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และปัจจัยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหมูและไก่ในประเทศ และความต้องการบริโภคหมูและไก่ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและส่งออก ส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 30,499.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% จาก 27,215.4 ล้านบาท ช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ระดับ 5,362.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.5% จาก 2,921.8 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.7% เพิ่มขึ้นจาก 10.8% ช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ EBITDA อยู่ที่ 3,766.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153.4% จาก 1,486.6 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 1,897.8 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิที่ระดับ 124.1 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับในปี 68 เบทาโกรยังคงมุ่งเน้นขับเคลื่อน 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1) การขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ (International expansion) ผ่านการควบรวมกิจการ และการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ โดยเฉพาะตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง 2) การปรับพอร์ตสินค้าเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร (Product and Channel Mix Optimization) มุ่งเน้นบริหารจัดการผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่สูงขึ้น 3) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Cost Transformation) ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการออกแบบกระบวนการใหม่ เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพและผลิตภาพ

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/68 เบทาโกรยังเริ่มรับรู้รายได้เป็นครั้งแรกจากบริษัท เบทาโกร ฟู้ดส์ (สิงคโปร์) จำกัด ในการเข้าซื้อกิจการ Eggriculture ซึ่งเป็นผู้ผลิตไข่ไก่รายใหญ่ในสิงคโปร์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ที่ระดับ 27.3 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ (หรือราว 688.8 ล้านบาท) ซึ่งยืนยันถึงความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์หลักที่ตั้งเป้าขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ และยังคงมองหาโอกาสขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่น ๆ ในเอเชียที่มีศักยภาพเพิ่มเติม เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารในระดับภูมิภาค

"แม้จะมีปัจจัยท้าทายธุรกิจโดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เรายังเห็นโอกาสเติบโตจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของราคาหมูและไก่ในประเทศ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ เช่น กากถั่วเหลือง และมันเส้น มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกแก่ธุรกิจในระยะข้างหน้า ประกอบกับอุปสงค์ในตลาดส่งออกหลักในยุโรป และเอเชียที่ยังคงแข็งแกร่ง และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ที่ 3-7%" นายวสิษฐ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ