นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีเมียร์ ควอลิตี้ สตาร์ช [PQS] กล่าวว่า บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ PQS ในปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการที่โรงงานใหม่เริ่มเดินเครื่องเต็มกำลัง ประกอบกับการส่งมอบสินค้ามูลค่าสูงที่มีคำสั่งซื้อรองรับไว้แล้วจะทยอยรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเราน่าจะได้เห็นความก้าวหน้าในการขยายตลาดส่งออกสู่ประเทศใหม่ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยหนุนรายได้และเสริมศักยภาพการแข่งขันของเราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้รวม 478 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 44.3% และลดลง 29.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามทิศทางราคาแป้งมันสำปะหลังในตลาดโลกที่อ่อนตัวและเงินบาทแข็งค่า อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 28.4% และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้บริษัทยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยเงินสดในมือกว่า 260 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.36 เท่า
"ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดเดินเครื่องโรงงานแห่งใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานแป้งมันสำปะหลังในจังหวัดกาฬสินธุ์ และโรงงานผลิตแป้งมันดัดแปร (Modified Starch) ในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต และขยายขีดความสามารถด้านการแข่งขัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า High Value ที่มีมาร์จิ้นสูงและเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมอาหารระดับสากล"นายรัฐวิรุฬห์ กล่าว
PQS คาดว่าผลิตภัณฑ์แป้งมันดัดแปรจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้รวมในปีนี้ และจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในระยะยาวของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อบรรจุอยู่ในแผนขยายตลาดส่งออกนอกเหนือจากจีน
PQS แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 54.97 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 128.77 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.19 บาท
นายรัฐวิรุฬห์ กล่าววว่า ไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 458.9 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขายแป้งมันสำปะหลัง และรายได้จากการขายไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนรายได้จากการขายลดลง 372.4 ล้านบาท หรือ ลดลง 44.8% โดยรายได้จากการขายแป้งมันสำปะหลังลดลง 379.2 ล้านบาท หรือลดลง 45.7% เป็นผลจากประเทศจีนชะลอคำสั่งซื้อ เนื่องจากสต็อกมีปริมาณมากในช่วงไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องมายังไตรมาส 1/68 ซึ่งปกติแล้วจะมีการสั่งซื้อเข้าก่อนช่วงตรุษจีน จึงมีผลทำให้ยอดขายการลดลงตามจังหวะความเคลื่อนไหวตลาด
"แม้ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงเวลาท้าทาย แต่เราได้วางรากฐานสำคัญเพื่อรองรับการเติบโตในระยะต่อไปแล้วอย่างมั่นคง"นายรัฐวิรุฬห์ กล่าว