
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง [GUNKUL] เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 1/68 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามกรอบเป้าหมายด้วยการทำกำไรจากการดำเนินงานหลักเติบโต 23.91% เป็น 394.73 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 318.57 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 30.48% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน2.38% และมีอัตรากำไรสุทธิ 17.54% ขยายตัวขึ้น 6.21%
สาเหตุหลักจาก 1) การดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายจากพลังงานสะอาด ทั้งโครงการพลังงานลม ซึ่งสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 57% เมื่อเทียบกันช่วงเดียวกันของปีก่อน โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดิน รวมถึงรายได้จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาที่ทำสัญญากับ ลูกค้าภาคเอกชน (Private PPA) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ

และ 2) การบริหารต้นทุนโครงการและ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทำให้แม้รายได้รวม 2,096.62 ล้านบาทในไตรมาสนี้อาจไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากมูลค่างานที่รอรับรู้ส่วนใหญ่ มีกำหนดส่งมอบในครึ่งปีหลัง แต่ด้วยการบริหารจัดการ ที่แข็งแกร่งภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในไตรมาสแรก เติบโตสูงตามที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทฯ แทบไม่ได้ผลกระทบจากนโยบายการปรับลดค่าไฟแปรผัน (Ft) แต่อย่างใด
"ผลกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ มาจากโมเดลธุรกิจพลังงานสีเขียวครบวงจรที่แข็งแกร่งทั้ง 3 ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานสะอาดซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีกำไรขั้นต้นที่สูง ทำให้เมื่อรวม กำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามประเภทธุรกิจ (Gross profit & profit sharing by business) ของบริษัทในไตรมาสนี้มาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานสะอาด 77% มาจากธุรกิจผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ 11% และมาจากธุรกิจก่อสร้างและให้บริการ 11% เท่ากัน"
ปัจจุบัน GUNKUL มีโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมด 1,479 เมกะวัตต์ โดย 832 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรอรับรู้รายได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีมูลค่างานรอรับรู้รายได้ (backlog) จากธุรกิจรับเหมาไฟฟ้า (EPC) และธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า (Manufacturing) กว่า 3,500 ล้านบาท ทีเตรียมรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในครึ่งหลังปีนี้

บริษัทยังได้วางแผนขยาย ธุรกิจรับเหมาไฟฟ้า โดยขยายเข้าสู่ตลาดไฟฟ้าแรงดันสูง 115 kV-500 kV ซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย และเตรียมต่อยอดธุรกิจสู่ธุรกิจการวางสายส่งระบบสื่อสาร ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจสายส่งพลังงานไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญมากว่า 13 ปี
นอกจากนั้น บริษัทฯ มีแผนสร้างการเติบโตให้ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยการรุกตลาดกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า ในระดับแรงดันกลางจนถึงแรงดันสูง และกำลังเข้าประมูลโครงการของทั้งภาครัฐและเอกชนในปีนี้ เพื่อ รองรับการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ซึ่งเชื่อมั่นว่าแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกทั้ง 3 กลุ่ม ธุรกิจ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ สร้างการเติบโตทั้งในด้านรายได้อย่างมั่นคง และเพิ่มศักยภาพ ในการทำกำไรที่ดี เนื่องจากรูปแบบธุรกิจที่ครบวงจรทำให้ บริษัทสามารถรับรู้ รายได้ในทุกช่วงของห่วงโซ่ธุรกิจโรงไฟฟ้า คือ ช่วงที่โครงการกำลังพัฒนาและก่อสร้างโรงไฟฟ้า บริษัทฯ สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และเมื่อ โรงไฟฟ้าของบริษัทฯ เปิดดำเนินงาน บริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง ในระยะยาว
GUNKUL มีเป้าหมายการเติบโตในช่วง 3 ปี (68-70) ไม่ต่ำกว่า 10-15% และขยาย พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งหมดเป็น 2,000 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปี โดยในการประมูลโรงไฟฟ้ารอบล่าสุด บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติ และได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ ทั้งโครงการพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม
บริษัทยังเตรียมต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่ ทั้งในระดับเชิงพาณิชย์และระดับโครงข่าย ธุรกิจซื้อ ขายไฟตรง (Direct PPA) และศึกษาโอกาสในการทำธุรกิจพลังงานสีเขียวใหม่ๆ เช่น SMR, Green hydrogen เป็นต้น
ด้านงบการลงทุน บริษัทฯ มีแผนจะใช้เงินลงทุนในส่วนทุน ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี ในธุรกิจโรงไฟฟ้าสีเขียวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในทุกด้านเพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ