
นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สกาย ไอซีที [SKY] เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 สามารถทำรายได้รวม 2,384 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205 ล้านบาท เติบโตขึ้น 72% และ 86% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่ทำรายได้อยู่ที่ 1,383 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท
อัตราการเติบโตของภาพรวมธุรกิจได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการดำเนินโครงการใหม่ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (SI) ที่สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับการขยายตัวของธุรกิจบริการดูแลความปลอดภัยและการบริหารอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะของ บริษัท เมทเธียร์ จำกัด ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว แม้จะมีแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง แต่ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกต่อรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) และโครงการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (Advance Passenger Processing System: APPS) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังได้รวมรายได้ของ บริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด (OTP) ซึ่งปัจจุบันชื่อบริษัท สกาย ซีซี จำกัด (SKYCC) เข้ามาแสดงในงบการเงินแบบเต็มไตรมาส รวมถึงการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ ส่งผลให้รายได้ และกำไรสุทธิของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เสริมความแข็งแกร่งของภาพรวม สกาย กรุ๊ป ได้อย่างชัดเจน
สำหรับแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 นอกจากการพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีด้าน Aviation Tech อย่างต่อเนื่องในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสนามบินแล้ว กลุ่ม SKY วางแผนสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย กับโครงสร้างรายได้ที่ครอบคลุมทั้งรูปแบบสัมปทาน (Concession) เป็นรายได้ระยะยาว, รายได้ประจำจากการให้บริการรายเดือน (Recurring Revenue), และรายได้จากโครงการ (Project based) เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
และยังคงเดินหน้าจัดทัพโครงสร้างธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับการขยายการเติบโตของแต่ละธุรกิจให้มีความชัดเจน อาทิ ธุรกิจที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วย Smart Facility Management ผ่าน บริษัท เมทเธียร์ จำกัด, ธุรกิจ Contact Center ที่นำเทคโนโลยี Large Language Model (LLM) และ AI เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ผ่านการลงทุนใน บริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด (ปัจจุบันชื่อบริษัท สกาย ซีซี จำกัด) และธุรกิจด้านการจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (ICT-SI) ผ่านการส่ง บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) (PIS)
นายสิทธิเดช กล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/68 บริษัทได้เข้าทำสัญญาใหม่และมีงานที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 22,015 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ให้กับกลุ่ม SKY ในอีกอย่างน้อย 6-7 ปีข้างหน้า เป็นรากฐานสำคัญในการรองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง โดยพร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจในเครือเพื่อรองรับการเติบโตของแต่ละหน่วยธุรกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังมองหาโอกาสใหม่ในการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ และเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อรับมือกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนให้แข็งแกร่งขึ้น และมั่นใจว่าปี 68 บริษัทจะยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง