นางสาวดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย หัวหน้าฝ่ายตราสารทุน-ประเทศไทย บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) กล่าวว่า อเบอร์ดีนปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 68 ลงเหลือ 1.5-2.0% จากประมาณการเดิมที่ 2.7% เนื่องจากรับผลกระทบการเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศ 3 เสาหลักเศรษฐกิจถูกระทบพร้อมกัน
- การส่งออก ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 60% ของ GDP ได้รับผลกระทบภาษีตอบโต้ของสหรัฐมากกว่าคาด โดยครึ่งปีแรกส่งออกน่าจะดีจากการที่คู่ค้าหลายประเทศเร่งนำเข้า แต่ในครึ่งปีหลังมีความเป็นไปได้สูงว่าจะลดลง และยังไม่รู้ว่าไทยจะใช้เวลาเจราจการค้ากับสหรัฐนานแค่ไหน และจะต่อรองภาษีลงมาได้หรือไม่ และเป็นอัตราเท่าใด ซึ่งหากสูงกว่าประเทศอื่นก็เป็นความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม คงต้องดูผลกระทบรายกลุ่มรายสินค้า อาทิ กลุ่มอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรกนิกส์ยกเว้นเซมิคอนดักเตอร์
- การลงทุน คาดว่าไทยจะได้รับผลกระทบหากภาษีของสหรัฐสูงอย่างมีนัยสำคัญ หรือหากการเจรจาการค้ากับสหรัฐยืดเยื้อ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติเลื่อนการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ซึ่งเท่าที่ติดตามภาพนิคมอุตสาหกรรม พบว่ามีบริษัทจากจีนเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ซึ่งบางส่วนไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐเป็นหลัก แต่กระจายส่งออกไปตลาดในอาเซียน แต่อีกส่วนส่งออกไปสหรัฐพอสมควร ตรงนี้อาจจะมีการทบทวนแผนการลงทุนในไทย อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบ อาทิ data center รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และโรงไฟฟ้า
- การท่องเที่ยว มีปัจจัยมากระทบต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 68 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติลงเหลือ 35.5 ล้านคน ใกล้เคียงปีก่อน (Flat Growth) โดยนักท่องเที่ยวจีนปรับลดเหลือ 4-5 ล้านคน จากปี 67 ที่มีจำนวน 6.7 ล้านคน หรือลดลง 25-40% แต่ไม่ได้ปรับเป้ารายได้ เพราะหันไปเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ นอกจากนี้ ต้องติดตามมาตรการของภาครัฐที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยคาดว่ากว่าจะเห็นการฟื้นตัวน่าจะเป็นช่วงปลายไตรมาส 3/68 หรือไตรมาส 4/68 ขณะที่หุ้นท่องเที่ยวยังไม่รับผลกระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่จับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนระดับไฮเอนด์
นางสาวดรุณรัตน์ คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ หลังจากปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้ง ขณะที่กำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (EPS) สิ้นปี 68 คาดไว้ที่ 90 บาท จากเดิม 96-97 บาท/หุ้น ส่วน Bloomberg Consensus ปรับลงเหลือ 90 บาท เพราะมองภาพเศรษฐกิจแย่ลง ท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าคาด และยังมีผลกระทบจากภาษีสหรัฐ ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าไทยจะถูกเก็บภาษีเท่าไหร่
ทั้งนี้ กรณี Best Case หากไทยถูกสหรัฐเก็บภาษี 10% ประเมินว่า EPS จะอยู่ที่ 85 บาท/หุ้น
แต่กรณี Worst Case หากไทยถูกสหรัฐเก็บภาษี 36% ก็คาด EPS จะลดลง 15% มาอยู่ที่ 77 บาท/หุ้น