นางสาวรังสิรัชต์ พรสุรี Head of Investor Relations & Risk Management บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในช่วงไตรมาส 2/68 คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/68 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน เพราะปีนี้ช่วงปลายเดือนเม.ย.-เดือนพ.ค.นี้มีปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้กระทบต่อการเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้า และการที่เป็นช่วงที่การจับจ่ายใช้สอยไม่ได้คึกคักมากเหมือนกับช่วงต้นปีและปลายปี ทำให้ธุรกิจค้าปลีกอาจจะมีการชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น และฮาร์ดไลน์ และส่งผลให้ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) อาจจะติดลบในตะดับ Mid-Low Single digit
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง ซึ่งจะมีการทำการตลาดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์เข้ามาเสริมมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้า แม้ว่าจะไม่ได้เข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าก็ยังสามารถสั่งซื้อที่ค้าได้สะดวก และหากในช่วงปลายไตรมาส 2/68 ฝนเริ่มตกลดน้อยลง มองว่ายอดขายก็มีโอกาสที่จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ ประกอบกับกลุ่มสินค้าประเภทอาหารยังคงมีการปรับตัวที่ดีขึ้นมาต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวลงไปนั้น มองว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ หากเทียบกับไตรมาส 1/68 ที่มีสัดส่วนยอดขายที่มีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 9% จากยอดขายรวมเท่านั้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของ CRC ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศ ที่ยังมีการจับจ่ายใช้สอยอยู่ต่อเนื่อง
ด้านเป้าหมายยอดขายของ CRC ในปี 68 วางเป้ายอดขายเติบโต 4-6% จากปีก่อน และเตรียมงบลงทุนรวมไว้ที่ 1.7-1.9 หมื่นล้านบาท รองรับการขยายสาขาทั้งหมด 25 สาขา ทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะสาขาในกลุ่มสินค้าประเภทอาหารและฮาร์ดไลน์ ไซส์ของสาขาขนาดกลาง-ใหญ่ เพื่อให้สามารถครอบคลุมพื้นนที่ต่างๆทั้งในไทย และเวียดนาม ได้แก่ ไทวัสดุ 4 สาขา Tops 10 สาขา GO Wholesale 4 สาขา GO! Mall 2 สาขา GO! Hypermarket 2 สาขา และ Mini GO! 3 สาขา ประกอบกับการบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆที่ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของ CRC เพิ่มขึ้น