เมื่อเวลา 10.12 น. PTTGC บวก 3.78 % เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มาที่ 19.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 192.21 ล้านบาท
IVL บวก 1.99% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มาที่ 20.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 60.77 ล้านบาท
SCC บวก 1.52% เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มาที่ 167.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 53.70 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า ธนาคารกลางจีนเมื่อวานปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด มองบวกต่อเศรษฐกิจ 1. Loan Prime rate อายุ 1 ปีปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.0% (จากเดิม 3.1%) และ Loan Prime rate อายุ 5 ปีลงมาอยู่ที่ 3.5% (จากเดิม 3.6%) 2. ธนาคารของรัฐรายใหญ่ 5 แห่งของจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในวันนี้ อาทิ Industrial and Commercial Bank of China ,China Construction Bank ฯลฯ คือ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีลดลง 0.15% เหลือ 0.95% ฯลฯ มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อเศรษฐกิจจีนและตลาดหุ้นจีน China play IVL, PTTGC, SCC,NER, STA
ขณะที่ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า แม้มีความท้าทายจากภาษีการค้าของสหรัฐฯ แต่ด้วยการบริหารจัดการภายในของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมีคอล [PTTGC] จะช่วยให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นราว 9 พันลบ.ในปีนี้ใน 2 เรื่องหลักคือ 1) 4.8 พันลบ. มาจากการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดผลขาดทุนจากการหยุดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร (Vencorex, PTTAC);และ 2) 4.5 พันลบ. มาจาก OPEX Saving การบริหารจัดการผลิตและการขายและการจัดหาวัตถุดิบด้วยต้นทุนต่ำลง ทั้งนี้รับรู้แล้ว 800 ลบ. ไตรมาส 1/68 คาดรับรู้อีก 1 พันลบ.ไตรมาส 2/68 และอีก 2.7 พันลบ.ครึ่งปีหลัง
นอกจากนั้น PTTGC ยังมีแผนทำ Asset Monetization ใน Non-core assets ราว 3 หมื่นลบ. เพื่อลดหนี้ลงช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายและอาจบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย
หลังจาก Vencorex France & TDI ได้จำหน่ายสินทรัพย์บางส่วนจากการปรับโครงสร้างธุรกิจในชั้นศาลให้กับผู้ซื้อเรียบร้อย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเลิกกิจการและชำระบัญชี ทำให้คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษทางบัญชีราว 30-40 ล้านยูโร (1.1-1.5 พันลบ.) ในไตรมาส 2/68 จากการตั้งด้อยค่าอย่าง Conservative ในปีที่แล้ว นอกจากนั้น ก็อยู่ระหว่างเจรจาขายสินทรัพย์ Vencorex ในไทยและสหรัฐฯ คาดได้ข้อสรุป H2/68
ขณะที่ PTTGC คาดว่าไตรมาส 2/68 ค่าการกลั่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ จากสเปรดน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นจาก 7.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเป็น 11.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมัน VLSFO จาก 7.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็น 10.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากอุปทานตึงตัวตามการปิดตัวของโรงกลั่นและความต้องการเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
รวมถึงสเปรดปิโตรเคมีก็เพิ่มขึ้น สายอะโรเมติกส์ (PX Chain) ได้แรงหนุนจากอุปทานตึงตัวจากการลดกำลังผลิตเพื่อรักษามาร์จิ้นและการเลื่อนภาษีการค้า และสายโอเลฟินส์ (PE, PP) ได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ต้นทุนแนฟทาลดลง และอุปทานตึงตัวตามการหยุดซ่อมบำรุง PTTGC จะได้วัตถุดิบอีเทนเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นในการผลิตปิโตรเคมี H2/68 เพราะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซ ปตท. เราคาดว่าหากไม่รวมผลขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2/68 จะดีขึ้นตามค่าการกลั่นและสเปรดปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น การประหยัดค่าใช้จ่าย และการบันทึกกำไรพิเศษทางบัญชีจาก Vencorex
คงคำแนะนำ "ซื้อ" จากแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดกำไรทั้งปีนี้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนมีตั้งด้อยค่าก้อนใหญ่ขณะที่ปีนี้มีการบันทึกกำไรพิเศษ อีกทั้ง PTTGC ยังมีความได้เปรียบในธุรกิจปิโตรเคมีผ่านความยืดหยุ่นในการเลือกใช้วัตถุดิบในการผลิต Valuation ปัจจุบันไม่แพงด้วย P/B 0.3x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีตมาก