นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นูทริชั่น โปรเฟส [NUT] เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดงานนำเสนอข้อมูลบริษัท และ ข้อมูลรายละเอียดการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้แก่นักลงทุน โดยปิดท้ายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปโรดโชว์ให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดสงขลา และ จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนจังหวัดต่าง ๆ เป็นอย่างดี
NUT เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและ เครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์บริษัทหรือแบรนด์ร่วม และ รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 ปี จากการบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การผลิตตามมาตรฐานสากล ไปจนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมเสริมอาหาร และ เครื่องสำอาง
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนขยายธุรกิจในปี 2568 โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement) เพื่อพัฒนาสูตรเฉพาะและสร้างแบรนด์ ผ่านการโฆษณาและการสื่อสารผ่านอินฟลูเอนเซอร์, กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์การดูผิวเฉพาะทาง และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care) โดยพัฒนาสินค้านวัตกรรม เช่น สเปรย์ระงับกลิ่น และ ผลิตภัณฑ์สุขอนามัย พร้อมเดินหน้าสื่อสารแบรนด์สินค้าผ่านคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และ การใช้ช่องทางดิจิทัลอย่างครบวงจร
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ. นูทริชั่น โปรเฟส [NUT] มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 37 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30.83% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
วัตถุประสงค์หลักของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ (Content) รวมถึงการว่าจ้างพรีเซ็นเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเสริมอาหารและเครื่องสำอาง
ทั้งนี้ NUT มีจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร โดยสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบภายในโรงงานของตนเอง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมด้วยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความโดดเด่นด้านกลยุทธ์การตลาดแบบ Omni-Channel โดยผสานช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันพร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยการใช้พรีเซ็นเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และการร่วมมือ Co-Brand กับพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียง ขณะเดียวกัน NUT ไม่มีภาระหนี้เงินกู้ และมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนอย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมั่นคงและศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ