นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น [SINO] เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลของประเทศจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการเจรจาปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าชั่วคราวเป็นระยะเวลา 90 วัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลบวกต่อบรรยากาศทางการค้าและภาพรวมอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยปัจจุบันสถานการณ์ความต้องการใช้บริการเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและค่าระวางเรือ โดยเฉพาะเส้นทางจีน-สหรัฐฯ มีปริมาณการจองตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเจรจา เนื่องจากมีความต้องการเร่งนำเข้าและส่งออกสินค้าในช่วงนี้และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลส่งออก (Peak Season) ของเส้นทางสหรัฐฯ ส่งผลให้ท่าเรือขนส่งสินค้าหลักส่วนใหญ่ของทั้ง 2 ประเทศมีความแออัดเพิ่มขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเส้นทางเซี่ยงไฮ้ ลอสแอนเจลิส ที่เพิ่มขึ้น 16% เป็นกว่า 3,130 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ตู้ขนาด 40 ฟุต) และเส้นทางเซี่ยงไฮ้ - นิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 19% เป็นประมาณ 4,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ตู้ขนาด 40 ฟุต) ขณะที่ค่าระวางเรือเส้นทางยุโรปเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการสายการเดินเรือได้นำเรือที่ใช้วิ่งขนส่งสินค้าในเส้นทางยุโรป มาให้บริการในเส้นทางสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เริ่มมีภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากสายการเดินเรือได้ปรับลดซัพพลายเรือในเส้นทางจีน - สหรัฐฯ ในช่วงที่ทั้ง 2 ประเทศยังไม่เปิดการเจรจากัน
"ปัจจุบันสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน แม้ปัจจุบันมีการผ่อนปรนการปรับขึ้นภาษีกับประเทศต่างๆ เป็นระยะเวลา 90 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับอีกหลายประเทศยังไม่ได้ข้อสรุป จึงอาจทำให้ดีมานด์และค่าระวางเรือเกิดความผันผวน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการกับสายการเดินเรือเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอรองรับความต้องการของลูกค้า" นายนันท์มนัส กล่าว