นายศิว์วิศว์ อนันตกุล ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.สเตคอน กรุ๊ป [STECON] เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ากลุ่มธุรกิจหลักหรือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปีนี้จะเติบโต 5-10% ทำรายได้ 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาส 1/68 สามารถทำรายได้จากการก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจการขายและบริการใหม่รวม 6,526.3 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/67 ขณะที่เซ็นสัญญางานก่อสร้างของภาคเอกชนไปแล้ว 15,433 ล้านบาท ทำให้ปริมาณงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาที่ 104,492 ล้านบาท
แนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดว่าจะมีรายได้ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า และจะมีอัตรากำไรดีขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งในไตรมาส 1/68 อัตรากำไรขั้นต้นทะลุเป้า 7% ไปที่ 7.6% แล้ว คาดว่ารักษาให้อยู่ในระดับ 7% ต่อเนื่องไปในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ หลังจากเสร็จสิ้นงานโครงการอุโมงค์ระบายน้ำหนองบอนที่เข้ามาฉุดอัตรากำไรไว้
บริษัทตั้งเป้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง 15 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4.19 แสนล้านบาทภายในช่วงปี 68-69 ทั้ง มอเตอร์เวย์ ทางด่วน รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ จนไปถึงการขยายสนามบิน โดยล่าสุด STECON เพิ่งชนะประมูลโครงการมอเตอร์เวย์ M7 ส่วนต่อขยายเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ด้วยการเสนอราคาต่ำสุดที่ 2,652 ล้านบาท โดยตั้งเป้ากวาดงานใหม่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ยังหาช่องทางเข้างานเกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาประมาณ 1-2 ดีล เป็นหนึ่งในแผนลงทุนธุรกิจด้านใหม่ ๆ หลังจากปี 67 บริษัทได้เข้าไปถือหุ้น 51% ในบริษัท มาร์ส วอเตอร์ ซัพพลาย จำกัด (MARS) เพื่อรุกธุรกิจบริหารน้ำประปาให้นิคมอุตสาหกรรม
"โครงการก่อสร้างให้กับรัฐคาดว่าการดำเนินการจะเป็นไปตามที่บริษัทฯ ต้องการ เพราะค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่น่าจะเพิ่มขึ้นมากระตุ้นการเติบโตของตัวเลขจีดีพี และรัฐบาลต้องรีบอนุมัติโครงการต่าง ๆ ก่อนงบปี 68 หมดวาระในเดือนธ.ค. อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ที่ไม่ได้เข้าสภาฯล่าช้า น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี"
นายศิว์วิศว์ กล่าวถึงส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าชมพู-เหลืองราว 100 ล้านบาทในไตรมาส 1/68 สาเหตุหลักยังคงมาจากปริมาณผู้โดยสารน้อยกว่าคาด เนื่องจากตัวเลขการคาดการณ์นั้นทำไว้ตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งภาพรวมปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าก็ไม่ได้กลับไปมากเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารถไฟฟ้าชมพู-เหลืองจะขาดทุนน้อยลงกว่าปีก่อน เพราะประเมินตัวเลขผู้โดยสารจะเติบโตขึ้น 20% และส่วนต่อขยายสายสีชมพูที่จะเปิดเดินรถได้ในเดือนมิ.ย.นี้ ขยายไปถึงด้านในอิมแพคเมืองทองธานี คาดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารของสายสีชมพูเติบโตขึ้นประมาณ 14,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน ไม่รวมวันที่มีคอนเสิร์ตหรืออีเว้นท์ใหญ่ ๆ ที่จะมีผู้เดินทางจำนวนมาก
นายศิว์วิศว์ กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่เป็นนโยบายของภาครัฐว่า หากได้ใช้จริงในเดือนก.ย.ปีนี้ ก็จะมาเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้อีกมาก ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ารถไฟฟ้าชมพู-เหลืองจะสร้างความยั่งยืนให้กับ STECON ในระยะยาวที่จะสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท (Recurring revenue)