นายธีรพันธ์ ดิษยบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี [PTG] เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/68 คาดเติบโตอย่างชัดเจนหากเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) โดยธุรกิจ Oil ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของการท่องเที่ยวและการเกษตร และค่าการตลาดน้ำมันสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยทำให้กำไรสูงขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจ Non-Oil ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการเปิดสาขาเพิ่มโดยเฉพาะ ร้านกาแฟ พันธุ์ไทย แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/67 ยังไม่แน่ใจว่าจะเติบโตใกล้เคียงกันหรือไม่
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 68 แม้มีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ โดยธุรกิจ Oil ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5-10% แม้ไตรมาส 1/68 ยอดขายติดลบ 3.1% แต่คาดว่าในไตรมาส 2/68 จะเติบโตขึ้นมาได้ และการขยายสาขาสถานีน้ำมันตั้งเป้าปี 68 จำนวนสาขา 2,279 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขา 2,237 สาขาแล้ว โดยปีนี้บริษัทมุ่งเน้นการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีบริการที่ครบครันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ไม่รวม LPG ไตรมาสแรกยอดขายเติบโต 55.7% จากเป้าหมาย 40-50%YoY โดยจำนวนสาขาของพันธุ์ไทยจากที่ตั้งเป้าเพิ่มอีก 600 สาขาในปี 68 นั้น 3 เดือนที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 100 สาขา ที่เหลือจะเร่งเปิดในไตรมาส 2-4 โดยมองว่าปีนี้อาจจะเปิดสาขาพันธุ์ไทยได้สูงถึง 800 สาขา ซึ่งธุรกิจ Non-Oil มีอัตรากำไรขั้นต้น 33% จากเป้าหมาย 30-35% ช่วยหนุนการเติบโตโดยรวมของบริษัทในภาวะที่ธุรกิจ Oil ยังมีความผันผวน
สำหรับการเติบโตของ EBITDA ของบริษัทตั้งเป้า 8-12% YoY ซึ่งในไตรมาส 1/68 ยังติดลบ 0.3% อย่างไรก็ตามจากยอดขายธุรกิจ Oil จะเพิ่มขึ้น รวมถึง EBITDA ที่มาจากธุรกิจ Non-Oil เชื่อว่าจะหนุนการเติบโตต่อเนื่อง
นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และบริหารการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ PTG กล่าวว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีความผันผวน บริษัทได้มีการบริหารพอร์ตผ่านธุรกิจ Non-Oil ทั้งร้านกาแฟและแหล่งรายได้อื่น ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัท รวมทั้งจุดยืนของบริษัทเรื่องความคุ้มค่า ตอบโจทย์ลูกค้าที่ช่วงที่เศรษฐกิจที่ผันผวน ทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ รวมทั้งการที่เข้าลงทุนธุรกิจใหม่ โรงไฟฟ้าต่าง ๆ และธุรกิจบริหารจัดการและผลิตเชื้อเพลิงขยะ จะช่วยหนุน Recurring Income และได้คาร์บอนที่จะมาชดเชย คาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่บริษัทปล่อยไป
สำหรับงบลงทุนปี 68 บริษัทวางไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจ Oil จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท เน้นปรับปรุงสาขาเป็นหลัก ขยายสาขาพันธุ์ไทย 600-800 สาขา งบลงทุน 1,000-1,500 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Non Oil และอื่น ๆ อีกจำนวน 500-1,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจใหม่ตั้งไว้ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท