CAZ ลุ้นกลับเข้ารับช่วงงาน CFP หนุนฟื้น เร่งหาแหล่งทุนเติมสภาพคล่อง-ลุ้นประมูล 3 บิ๊กโปรเจ็คต์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 30, 2025 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวพรธิภัสร์ ขันธีวิทย์ ผู้อำนายการสายงานบัญชีและการเงิน บมจ.ซี เอ แซด (ประเทศไทย) [CAZ] ยอมรับว่า ทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2-3/68 ผลการดำเนินจะปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่ บมจ.ไทยออยล์ [TOP] ยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการก่อสร้างพลังงานสะอาด (CFP) กับผู้รับเหมาหลักรายเดิม คือ กิจการร่วมค้า พีเอสอีเอแอล เอสเอสไอเอ็นจี และเอสอีที (UJV) เบื้องต้นในไตรมาส 2/68 คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

CAZ เป็นหนึ่งในบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 20 บริษัทที่ผู้รับเหมาหลักในโครงการ CFP ยังค้างค่าจ้างอยู่ ซึ่งบริษัทดำเนินการก่อสร้างโครงการ CFP ไปแล้ว 35% ของงานที่จะต้องทำทั้งหมด และขณะนี้คดีความการฟ้องร้อง UJV ยังอยู่ในกระบวนการ โดยบริษัทมีนัดเดินทางไปยังศาลอีกครั้งในกลางเดือนหน้า ส่วนเรื่องการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากงานในโครงการนี้ ยังไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องรอและคดีและการเจรจาสัญญากับ UJV ก่อน

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าในไตรมาส 4/68 จะมีโอกาสกลับเข้าไปทำงานก่อสร้างโครงการ CFP ได้อีกครั้ง หลังจาก TOP ได้ผู้รับเหมาหลักรายใหม่เข้ามาแทน ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานจะกลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยอมรับว่าภาพรวมทั้งปี 68 รายได้จะปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปี 67

ส่วนภาระหนี้สินที่มีอยู่ ณ สิ้นไตรมาส 1/68 รวม 2,344.91 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น จำนวน 1,096.30 ล้านบาท โดยบริษัทพยายามหาแหล่งเงินทุนเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัท รวมทั้งการเจรจากับเจ้าหนี้การค้า ทั้ในส่วนของการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสถาบันการเงิน ในการขอผ่อนผันการชระหนี้ และขอปรับลดทยอยการชำระหนี้ลงไป

"บริษัทยังมองหาแหล่งเงินทุนอยู่ เพื่อประคับประคองภาระหนี้ที่เรามี บริษัทมองว่าทุกอย่างจะสามารถคลี่คลายได้ในเร็ววันนี้ แต่อาจต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน"นางสาวพรธิภัสร์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 68 บริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่ 3 โครงการ มูลค่า 14,300 ล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างในอุตสาหกรรมก๊าซ มูลค่า 11,500 ล้านบาท โครงการรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี มูลค่า 800 ล้านบาท และโครงการในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี งานบริการด้านวิศกรรมโยธาและรับเหมาก่อสร้างติดตั้งโครงสร้างและระบบ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังโครงการที่ 1 และโครงการที่ 3 ที่มีศักยภาพค่อนข้างสูง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2-3/68

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้ จากการก่อสร้าง 823.84 ล้านบาท ลดลง 13.20 YoY จากงานก่อสร้างบางโครงการที่เป็นการดำเนินการช่วงปลายของระยะเวลาตามสัญญา จึงมีปริมาณงานที่สามารถรรับรู้รายได้ไม่มาก โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีงานโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) รวม 1,733.95 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่องในไตรมาส 2/68 จนถึงกลางปี 70

ขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ในไตรมาส 1/68 จำนวน 39.59 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.77 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 52.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.51 โดยอัตรากำไรสุทธิที่ลดลดเป็นผลจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงานที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น




เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ