
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ [CKP] เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5, 6 และ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา CKP ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท โดยมียอดจองเกินวงเงินที่เสนอขายเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ CKP ในฐานะองค์กรที่มีพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคง การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด พร้อมทั้งมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกมิติของห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของบริษัทเป็นหลัก และส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยหุ้นกู้มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.15 ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.30 ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.45 ต่อปี

- หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี จำนวน 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.90 ต่อปี โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด
หุ้นกู้ของ CKP ได้รับการจัดอันดับจากทริสเรทติ้งที่ "A-" แนวโน้มคงที่ ซึ่งเท่ากับอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ได้รับการจัดประเภทเป็น "หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021 Green Loan Principles 2025 และ Thailand Taxonomy 2023 และได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer) โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบันที่ไม่รวมบุคคลธรรมดา และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ในปี 67 โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในกลุ่ม CKPower สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่งให้ประเทศไทยได้กว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศ และในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
โดย CKP มีแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ด้านการเงินสีเขียว (Green Finance) โดยใช้กลไกการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมลดการใช้พลังงานเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าคู่ขนานไปกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 93