SET ปิดเช้าที่ระดับ 1,125.06 จุด ลดลง 3.56 จุด (-0.32%) มูลค่าซื้อขายราว 22,103.70 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยแกว่งชะลอลงตามตลาดหุ้นโลก หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน แต่ยังได้กลุ่มพลังงานเข้ามาหนุนจากราคาน้ำมันพุ่งตอบรับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยยังเป็นปัจจัยกดดัน ทั้งการปรับ ครม.และคดี "ทักษิณ" ชั้น 14 แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งลบต่อเนื่อง แนะติดตามการโต้ตอบของอิหร่านอย่างใกล้ชิด ให้แนวต้าน 1,130 จุด แนวรับ 1,120 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,125.06 จุด ลดลง 3.56 จุด (-0.32%) มูลค่าซื้อขายราว 22,103.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นเช้าวันนี้ ดัชนีปรับตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,127.29 จุด และต่ำสุด 1,121.25 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งลง หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านเป็นปัจจัยเชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่บ้านเรายังลงน้อยกว่าประเทศอื่น เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ได้รับผลประโยชน์มีสัดส่วนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก จึงได้เข้ามาช่วยหนุนดัชนีไว้ได้ในระดับหนึ่ง
ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ยังเป็นปัจจัยเชิงลบสำหรับเช้านี้เช่นกัน ตั้งแต่กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมไปถึงการไต่สวนคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กรณีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดยังแกว่งในแดนลบต่อเนื่อง เพราะยังไร้สัญญาณเชิงบวก แนะนำติดตามการโต้ตอบของอิหร่านอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ยกระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลางก็จะเป็นผลกระทบเชิงลบต่อภาพรวมตลาด
พร้อมให้แนวต้าน 1,130 จุด และแนวรับ 1,120 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,624.19 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,457.18 ล้านบาท ปิดที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,307.70 ล้านบาท ปิดที่ 113.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 741.04 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
TTB มูลค่าการซื้อขาย 659.60 ล้านบาท ปิดที่ 1.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท