นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร [DRT] เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งในประเทศช่วงไตรมาส 3/68 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนที่เป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตและตลาดให้การยอมรับในคุณภาพและแบรนด์สินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งจากประเทศไทย
ปัจจุบันบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อสินค้าจากตลาดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ บอร์ด และมีแผนนำเสนอสินค้าอิฐมวลเบาเข้าสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นด้านน้ำหนักที่เบากว่า ก่อได้ง่ายรวดเร็ว เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่กว่าและยังมีคุณสมบัติการกันเสียงและกันความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวอีกว่า บริษัทฯ เตรียมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์โรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่ ACC-2 จังหวัดสระบุรีในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบันติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างทดสอบการผลิต ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมด้านการผลิตสินค้าได้ทันกับความต้องการ มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงและลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น โดยโรงงานอิฐมวลเบา ACC-2 จะเพิ่มโอกาสขยายตลาดงานโครงการภาครัฐจากการผลิตสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการจากโครงการก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน
โรงงานอิฐมวลเบา ACC-2 ใช้งบลงทุน 648 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 163,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 2.9 ล้านตารางเมตรต่อปี เมื่อรวมกับกำลังการผลิตอิฐมวลเบาในปัจจุบันที่โรงงานสระบุรีและเชียงใหม่ 5.8 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งมีอัตราการเดินเครื่องจักรเกือบเต็มกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตอิฐมวลเบารวมเพิ่มขึ้นเป็น 8.7 ล้านตารางเมตรต่อปี
โรงงานดังกล่าวใช้เทคโนโลยีการผลิต The Green Cake Separating Technology โดยจะแยกอิฐมวลเบาก่อนเข้ากระบวนการอบ ช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตและเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบดักฝุ่น หมุนเวียนไอน้ำและไอร้อนกลับมาใช้ การนำน้ำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ยังได้รับรองมาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001 และ Green Industry Level 3