นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า กำลังเกาะติดสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่รุนแรง แต่หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลท.ก็พร้อมจะพิจารณาออกมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ตามปกติ
ผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ต่าง ๆ มีความผันผวนมาก โดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แม้ว่าจะบรรลุข้อตกลงกรอบการค้าเบื้องต้นไปแล้ว แต่ก็ถือว่ายังมีความไม่แน่นอน สถานการณ์เปลี่ยนตลอดเวลา เช่นเดียวกับ สถานการณ์ในประเทศที่มีหลายข่าวกระทบต่อตลาดทุน ซึ่ง ตลท.มีทีมงานติดตามสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาหาแนวทางหากเกิดสภาวะฉุกเฉิน และทำให้ตลาดทุนสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
"ปัจจัยสำคัญคือการให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ตามปกติ ความคล่องในการเข้าออก แต่ถ้าเกิดภาวะที่กะทันหันหรือรุนแรง เราอาจต้องมีมาตรการที่ชะลอหรือช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจ"
นายอัสสเดช กล่าวว่า มาตรการระยะสั้นที่จะใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ Liberation Day ของสหรัฐ ซึ่งโชคดีที่เป็นช่วงตลาดหลักทรัพย์บ้านเราปิดทำการ ทำให้มีเวลาคิดว่าจะต้องมีมาตรการใดเป็นพิเศษเพื่อชะลอการตัดสินใจของนักลงทุน เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสใช้เวลาวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งการตัดสินใจออกมาตรการใด ๆ ตลท.จะพิจารณาจากข้อมูลที่มีความชัดเจนและถูกต้องเพื่อตัดสินใจกระบวนการต่าง ๆ ได้ในระยะสั้นที่จำเป็น
สำหรับกรณีการเจรจาภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าระหว่างไทยและสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ยืดระยะเวลาการใช้มาตรการดังกล่าวไป 90 วัน นายอัสสเดช กล่าวว่า คาดหวังว่าผลการเจรจาจะมีทิศทางเป็นบวกต่อตลาดทุนไทย ซึ่งปัจจุบันไทยน่าจะได้คิวในการเจรจาแล้ว