นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดวันนี้ตลาดอยู่ในช่วงผันผวน มีปัจจัยกดดันหลักจากประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่ยกระดับการตอบโต้ที่รุนแรงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
และประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา โดยถึงแม้การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC) จะได้เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ก็ยังขาดความแน่นอนในระยะยาว รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ยังไม่มีการชี้แจงออกมาอย่างชัดเจน
แนวโน้มในวันนี้ แนะนำให้ติดตามประเด็นการเมืองระหว่างประเทศต่อไป โดยในส่วนของอิสราเอล-อิหร่าน ถ้าหากยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยลบต่อนักลงทุนแน่นอน และติดตามท่าทีไทย-กัมพูชาสืบเนื่องจากการประชุม JBC ที่จะกระทบต่อตลาดในระยะสั้น
พร้อมให้แนวต้าน 1,130 จุด และแนวรับ 1,110 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,197.79 จุด ลดลง 769.83 จุด หรือ -1.79%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,976.97 จุด ลดลง 68.29 จุด หรือ -1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,406.83 จุด ลดลง 255.66 จุด หรือ -1.30%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,056.86 จุด เพิ่มขึ้น 222.61 จุด หรือ +0.58% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,791.79 จุด ลดลง 100.77 จุด หรือ -0.42% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,369.37 จุด ลดลง 7.63 จุด หรือ -0.22%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มิ.ย.) 1,122.70 จุด ลดลง 5.92 จุด (-0.52%) มูลค่าซื้อขาย 42,301.91 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (13 มิ.ย.) 318.31 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (16 มิ.ย.) พุ่งขึ้น 1.57 ดอลลาร์ หรือ 2.15% แตะที่ 74.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด ( 13 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.51 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.51 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อน จับตาสถานการณ์ตอ.กลาง-ราคาทองคำ
- ลุ้นบอร์ด ทอท. วันนี้ (16 มิ.ย.) เคาะเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินใหม่ หลัง "คิง เพาเวอร์" ยื่นหนังสือขอยกเลิก 3 สัญญาทุกสนามบิน ด้าน "ปวีณา" รับหลังประชุมบอร์ด ทอท. พร้อมชี้แจงสถาบันการเงิน-นักลงทุน ถึงเหตุของปัญหายกเลิกสัญญา ย้ำยกเลิกสัญญาไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด
- ธปท.เดินหน้าคุมเช่าซื้อ 1.6 ล้านล้านบาท เตรียมเปิดให้ผู้ประกอบการรายงานตัวตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ จนถึงไตรมาสแรกปีหน้า ลั่นฝ่าฝืนเจอบทลงโทษ วงในชี้ปรับ "บริษัท-ผู้บริหาร" กรณีละ 500,000 บาท รวมถึงปรับอีกวันละ 5,000 บาท หากยังไม่ยอมมาขึ้นทะเบียน
- "พิชัย" เผย ไทยเตรียมเปิดเจรจาสหรัฐ แก้ปมภาษีตอบโต้ เชื่อได้บินคุยเร็วๆ นี้ โวได้รับการตอบรับที่ดีเรื่องข้อเสนอ จากนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ แถมเจอ นายจามิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐถึง 2 ครั้ง ยืนยันถึงความพร้อมของไทย มาตรการภาษีการค้ากับสหรัฐ ที่มุ่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทยกับสหรัฐ มั่นใจได้เจรจาหาทางออกกันชัวร์
- ปิดฉากถกเจบีซีวันที่สองไร้ข้อสรุปชัดเจน หลังใช้แผนที่คนละฉบับเป็นข้อกำหนดในการปันเขตแดน ผู้นำเขมรชิงยื่นศาลโลกปมพิพาทดินแดน "ช่องบก-3 ปราสาท" มั่นใจใช้กลไกของกฎหมายระหว่างประเทศคลี่คลายสถานการณ์ ด้าน "กระทรวงบัวแก้ว" ย้ำจะใช้ 3 ระดับหลักเป็นกลไกในการร่วมแก้ปัญหา พร้อมนัดประชุมเจบีซีสมัยพิเศษ ก.ย.นี้ที่ไทย ขณะที่ สมช.นัดประชุมประเมินผลกระทบ-ข้อกฎหมาย หลังรัฐบาลกัมพูชาประกาศยุติการซื้อสัญญาณอินเตอร์เน็ตและกระแสไฟฟ้าจากไทย ส่วนนายกฯ ย้ำไม่มีแนวคิดผลักดันแรงงานเขมรกลับประเทศ ให้คำมั่นยึดประโยชน์ ปท.เหนือความสัมพันธ์-ประโยชน์การเมือง
- BCP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมาย 38 บาท ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวคาดบวกต่อธุรกิจในกลุ่มต้นน้ำ และช่วยลดความกังวลการขาดทุนสต๊อกของกลุ่มโรงกลั่น ภาพระยะกลางคาดกลับมาฟื้นตัวจากการ synergy ระหว่าง BCP และ BSRC ซึ่งน่าจะช่วยลดต้นทุนมากยิ่งขึ้น คาดมีโอกาสได้รับการคัดเลือกเข้า SET50 รอบใหม่ (ก.ค.-ธ.ค.) ซึ่งจะประกาศกลางเดือนนี้
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus ที่ 317.65 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68-H2/68 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่องหนุนจากทั้งฝั่งรายได้คาดยังเติบโตแข็งแรง ขณะที่ต้นทุนไม่มีแรงกดดันเพิ่มเติมหลังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เหมือนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงภาพการแข่งขันเบาลง ส่วนการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่คาดไม่แพงเท่าในอดีต จะเป็นบวกระยะยาว ประมาณการกำไรปี 68 ของ Consensus ล่าสุดอยู่ที่ 4.4.1 หมื่นล้านบาท +16%YoY ยังเป็นหุ้น Defensive ที่คาดผันผวนต่ำท่ามกลางความไม่แน่นอน
- TOP (กสิกรไทย) "เก็งกำไร" ราคาพื้นฐาน 33.30 บาท เป็นโรงกลั่นน้ำมันใหญ่สุดของไทย กำลังการกลั่น 275,000 บาร์เรลต่อวัน และครองส่วนแบ่งตลาด 30% แต่หุ้นซื้อขายมูลค่าต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ด้วย PBV เพียงแค่ 0.4 เท่า ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 52 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2SD ประกอบกับสงครามในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้นคาดส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นต่อเนื่อง คาด Inventory loss จะพลิกเป็น gain ในไตรมาส 2/68 คาด GRM ฟื้นระยะสั้นหนุนจากการบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลขับขี่ของตลาดหลัก นอกจากนี้ ปริมาณสต็อกก๊าซโซลีนและดีเซลยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ส่งผลให้ Singapore GRM ดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมาที่ 5 ดอลลาร์ในไตรมาส 2/68 จาก 3.16 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 1/68