นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดรีบาวด์เล็กน้อยตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงเปิดทำการเช้านี้ และตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ จากสัญญาณบวกของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านส่งสัญญาณให้ชาติอาหรับสนับสนุนการยุติความขัดแย้งผ่านโต๊ะเจรจา แต่ก็เป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันที่อาจจะฉุดหุ้นพลังงานกดดันภาพรวมตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ทำให้ดัชนีอาจจะปรับขึ้นได้เล็กน้อย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่ และยังคงต้องต้ดตามปัจจจัยการเมืองในประเทศว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร รวมถึงรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
โดยให้แนวต้าน 1,130 จุด แนวรับ 1,100 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,515.09 จุด เพิ่มขึ้น 317.30 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,033.11 จุด เพิ่มขึ้น 56.14 จุด หรือ +0.94% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,701.21 จุด เพิ่มขึ้น 294.39 จุด หรือ +1.52%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,366.68 จุด เพิ่มขึ้น 55.35 จุด หรือ +0.14% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24,107.34 จุด เพิ่มขึ้น 46.35 จุด หรือ +0.19% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดจีนเปิดที่ระดับ 3,388.18 จุด ลดลง 0.55 จุด หรือ -0.02%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 มิ.ย.) 1,114.49 จุด ลดลง 8.21 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 41,122.78 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (16 มิ.ย.) 3,526.76 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (16 มิ.ย.)ลดลง 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 71.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด ( 16 มิ.ย.) อยู่ที่ 6.89 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.45 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาผลประชุม FED-BOJ-BoE สัปดาห์นี้
- ธุรกิจค้าปลีกส่งสัญญาณซึมพิษเศรษฐกิจหนัก ดัชนีเชื่อมั่น พ.ค.ดิ่งหนัก ทัวริสต์จีนหาย 40% ฉุดทราฟิกไตรมาส 2 ผู้บริโภค รัดเข็มขัดแน่น ศูนย์การค้าบางแห่งคนแน่น แต่ควักกระเป๋าจ่ายยาก เดินหน้าอัดฉีดโปรโมชัน โหมอีเวนต์ถี่ ดึงลูกค้า ประคองยอดขาย
- สภาธุรกิจไทย-กัมพูชา หวั่นสถานการณ์ลงทุนไทยในกัมพูชา หากสถานการณ์ลากยาว ซ้ำเติมจากนโยบายภาษีทรัมป์ เผยไทยลงทุนกัมพูชากว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ OR ยืนยันสถานการณ์ธุรกิจในกัมพูชายังปกติ มองเป็นบ้านหลังที่ 2 สร้างงานสร้างอาชีพคนในพื้นที่ SCG ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ย้ำการเป็นมิตรที่ดีกับคนในพื้นที่มาโดยตลอด สร้างงาน-รายได้ให้ท้องถิ่น
- สหรัฐ ยกระดับไทยเป็นประเทศท่องเที่ยวปลอดภัยสูง หนุนความเชื่อมั่นภาคท่องเที่ยว "สรวงศ์" เชื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้าน CENTEL มองเป็นจิตวิทยากระตุ้นนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา วางแผนเดินทางเที่ยวไทยช่วงไฮซีซัน คาดหวังรัฐบาลเร่งโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย
- ปิดดีล! "คลัง" แจงคณะอนุกรรมการกลั่นกรองใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท ถกพิจารณาโครงการผ่านเข้ารอบใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมชงบอร์ด กระตุ้นเศรษฐกิจเคาะ ดันเข้า ครม.วันที่ 24 มิ.ย. ด้าน กมธ.งบฯ ปิดห้องถก! ปมมี สส.ไลฟ์สดผ่านช่องของตนเอง กังวลประเด็นล่อแหลม-ถูกตัดต่อให้เข้าใจผิด ก่อนได้ข้อสรุปถ่ายทอดสดได้เฉพาะตัวเอง ห้ามไลฟ์ตลอดเวลา
- CENTEL(กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 30.73 บาท แนะ "เก็งกำไรระยะสั้น" หลังจากที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้ผลกระทบด้านจิตวิทยาเชิงลบจากสงครามในตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาหุ้นลงไปแรง ขณะปัจจุบันสถานการณ์ตะวันออกกลางมีทีท่าที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปรับระดับคำแนะนำการเดินทางจัดให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ 1 -Exercise Normal Precautions ความปลอดภัยสูงสุด อาจเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนกลับมา โดยปัจจุบัน CENTEL ซื้อขาย EV/EBITDA ปี 2025 ที่ระดับ 11.8 เท่าเทียบกับกลุ่มที่ 14.2 ขณะที่ 2025E ROE อยู่ที่ระดับ 7.9% เทียบกับกลุ่มที่ 5.3%
- PRM (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.45 บาท แนวโน้มไตรมาส 2/68 กำไรปกติดีขึ้น QoQ จากเรือมีจำนวนวันทำงานมากขึ้นหลังเข้า Dry Dock และทยอยรับเรือใหม่เข้ามาในไตรมาส 1/68 ประกอบกับ จะรับเรือ FSU และ Crew Boat ใหม่อย่างละ 1 ลำ แนวโน้ม H2/68 น่าจะกลับมาโต YoY ตามกำลังการให้บริการเพิ่มขึ้นและเรือใหญ่มีตารางเข้า Dry Dock น้อยลง แผนลงทุนในอนาคตจะทยอยรับเรือ PCT 6 ลำปีหน้าทดแทนเรือเก่า และสนใจลงทุนเรือ Anchor Handling Tug สนับสนุนกิจกรรมสำรวจปิโตรเลียมที่ค่าบริการสูง ปี 68-69 คาดกำไร 2.4 พันล้านบาท (+14%YoY) และ 2.5 พันล้านบาท (+4%YoY)
- TIDLOR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท กำไรไตรมาส 1/68 โตดีกว่าตลาดคาด หนุนจากคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งขึ้นจากไตรมาส 4/67 แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 โต y-y จากสินเชื่อขยายตัว และคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ท่ามกลาง Valuation เทรดเพียง PE 8.9 เท่า และคาดอัตราปันผล 3.2% และได้รับการคัดเลือกเข้า SET50 ในรอบ H2/68