SCBAM เปิดกองใหม่เน้นลงทุนเชิงรุกตราสารหนี้คุณภาพทั่วโลก พร้อมเสนอขาย 17 - 23 มิ.ย. 68

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 17, 2025 11:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับที่ดีของกองทุน SCBDBOND ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2567 ด้วยกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้เชิงรุกแบบยืดหยุ่น ซึ่งมีกรอบดูเรชั่นกว้างระหว่าง -10 ถึง 10 ปี โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 25,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2568)

SCBAM จึงได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวกองทุน SCBDLITE พร้อมเปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2568 นี้

เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนตราสารหนี้คุณภาพที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยมีกรอบดูเรชั่นที่แคบลงเหลือ -5 ปี ถึง 5 ปี เพื่อช่วยจำกัดความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนให้ต่ำลง แต่ยังคงมีความคล่องตัวในการปรับพอร์ตและกระจายความเสี่ยงตามสภาวะตลาด ผ่านการใช้ Scoring Model ที่พิจารณาปัจจัยหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental), การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Trading) และมูลค่าตราสาร (Valuation) ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านอัตราดอกเบี้ยและบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จากการลงทุนระยะยาว หรือ 12 เดือนขึ้นไป

นอกจากนี้ SCBAM ยังมีกองทุนตราสารหนี้ที่ครอบคลุมกรอบระยะเวลาการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา

นางนันท์มนัส กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในช่วงกลางปี 2568 แสดงสัญญาณการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ โดยสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะ Soft Landing อย่างระมัดระวัง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในครึ่งปีหลังหากแรงกดดันเงินเฟ้อคลี่คลาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ตลาดตราสารหนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ในขณะที่เศรษฐกิจไทยเผชิญแรงกดดันใหม่จากการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 ลงโดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอ ความเปราะบางของภาคส่งออก และผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แม้ภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นภาครัฐจะยังเป็นแรงพยุงหลัก อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 1.75% และอาจลดลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ควรเน้นการกระจายความเสี่ยงระหว่างตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ พร้อมจับตานโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อและดอกเบี้ย โดย SCBAM มองเป็นจังหวะเข้าลงทุนสะสมตราสารหนี้ เพื่อล็อคอัตราผลตอบแทน Bond Yield ในปัจจุบัน และเพื่อรองรับสภาวะตลาดที่ยังมีความผันผวนและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ SCBAM จึงเปิด กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Dynamic Bond Lite หรือ SCBDLITE กองทุนตราสารหนี้คุณภาพ ที่มีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกโดยไม่ยึดติดกับดัชนีอ้างอิงใด สามารถปรับพอร์ตลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อกระจายเสี่ยงและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าได้ในทุกสภาวะตลาด

กองทุน SCBDLITE เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ-เอกชนคุณภาพดีระดับ Investment Grade ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เงินฝาก และตราสารอนุพันธ์ โดยใช้การวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่มีมูลค่าน่าสนใจ (Valuation) และ/หรือมีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ผ่านการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน (Yield) และส่วนต่างของความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Spread) เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุน

โดยกองทุนให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องของพอร์ตลงทุน การจัดสัดส่วนการลงทุนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และการติดตามความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมีการบริหารดูเรชั่นตราสารที่ยืดหยุ่นระหว่าง -5 ปี ถึง 5 ปี และกระจายการลงทุนในระดับประเทศ ภูมิภาค และอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วในภาวะตลาดปกติ พอร์ตจะมีดูเรชั่นของตราสารที่ประมาณ 3 - 4 ปี และหากตลาดทุนอยู่ในช่วงขาขึ้น (ตลาดกระทิง) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มปรับลด กองทุนจะปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารระยะยาวมากขึ้นเพื่อรับประโยชน์จากการปรับตัวของราคา ในทางกลับกัน หากตลาดมีความผันผวนหรืออยู่ในภาวะขาลง (ตลาดหมี) กองทุนจะปรับลดสัดส่วนตราสารระยะยาวและเพิ่มสัดส่วนตราสารระยะสั้นทดแทน เพื่อรักษาเสถียรภาพของพอร์ตและสร้างผลตอบแทนรวมที่เหนือกว่าตลาดในทุกสภาวะ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ