
กลุ่ม บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี [AGE] จัดตั้งบริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด (AAG) เพื่อดำเนินธุรกิจ Low Emission Mobility ด้วยการเป็นตัแทนจำหน่ายรถยนต์ EV และไฮบริด โดยร่วมกับพันธมิตร 4 แบรนด์รถยนต์ได้แก่ Zeekr (ซีเคอร์), Omoda & Jaecoo (โอโมดา แอนด์ แจคู), Chery (เฌอรี่) และ Mitsubishi motors (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์แถวหน้า ที่ขับเคลื่อนทั้งด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี มีความพร้อมและ ศักยภาพ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
นายปองธรรม แดนวังเดิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในกลุ่ม AGE กล่าวว่า AGE ตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมที่ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 73 และมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ IRR ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ธุรกิจ Low Carbon ไม่น้อยกว่า 50% ของรายได้รวมของกลุ่ม ซึ่งปัจจุบัน AGE ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจยั่งยืนอยู่ที่ประมาณ 30-35% ของรายได้คาดการณ์รวมในปี 69
ปัจจุบัน AGE มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ Low Emission Mobility ในไตรมาส 1/68 มากกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่มีเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ 2,000 ล้านบาท
นายปองธรรม กล่าวว่า เอจีอี เวนเจอร์ส เป็น Flagship Company ของกลุ่ม AGE ในการลงทุนธุรกิจ Low Emission Mobility เพื่อความยั่งยืนระยะยาวที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจคาร์บอนต่ำ และธุรกิจที่บริษัทมีความสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย เช่น รถยนต์ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป สอดคล้องกับธุรกิจเดิม และช่วยเร่งการเปลี่ยนถ่ายการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานสะอาด หรือ New Energy Vehicles
AAG วางแผนขยายก่อสร้างพร้อมปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขาย รวม 9 แห่ง ได้แก่ Zeekr House รามอินทรา , Zeekr House พระราม 2 , Zeekr House พัทยา , Zeekr House สุวินทวงศ์, Omoda & Jaecoo รามคำแหง , Omoda & Jaecoo บางนา , Omoda & Jaecoo รังสิต , Chery รังสิต และ มีแผนปรับปรุงโชว์รูม Mitsubishi สาขารามอินทรา โดยทั้ง 9 โชว์รูมพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 68 โดยปัจจุบันได้จัดทำโชว์รูม และศูนย์บริการ ชั่วคราวเพื่อรองรับการเยี่ยมชม และการให้บริการ หลังการขายแก่ลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียง
"ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง จากต้นทุนการใช้งานของรถไฟฟ้าต่อกิโลเมตร ที่ต่ำกว่ารถที่ใช้น้ำมัน ทั้งค่าพลังงาน และค่าบำรุงรักษา ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถยนต์พลังงานสะอาด โดยในปัจจุบันสัดส่วนการใช้รถไฟฟ้าในประเทศไทยในปี 68 อยู่ที่ประมาณ 11% ขณะที่ประเทศสิงค์โปร อยู่ที่ประมาณ 32% ทำให้มองได้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในจุดเริ่มต้นของการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า"
นอกจากนี้ AGE ยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ และไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมก่อนกำหนดครบชำระในเดือน มิ.ย.68 และ Turnaround ผลประกอบการของกลุ่มให้กลับมามีกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายของ AGE ที่จะยกระดับความสามารถของกลุ่มในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจถ่านหินเดิม และเพิ่มการลงทุนในธุรกิจยั่งยืนอย่างปลอดภัย ผ่านทีมบริหารรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการและคณะที่ปรึกษาที่มากด้วยประสบการณ์ ทั้งในด้านธุรกิจ การเงิน การลงทุน กฎหมาย และความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาวอย่างมั่นคงและยั่งยืน